24 มี.ค.2566 อย่าพลาดชมปรากฏการณ์ "ดวงจันทร์บังดาวศุกร์" มีเวลาถ่ายภาพช็อตเด็ดเพียง 5 นาที

วันศุกร์ที่ 24 มี.ค.2566 จะเกิดปรากฏการณ์ "ดวงจันทร์บังดาวศุกร์" โดยในวันนั้น จะเป็น "ดวงจันทร์เสี้ยว ขึ้น 3 ค่ำ" หลังดวงอาทิตย์ตกดิน ดวงจันทร์จะปรากฏให้เห็นทางทิศตะวันตก ด้วยมุมเงย 32°
 

เนื้อหา
  • ตารางเวลาการเกิดปรากฏการณ์
  • มีเวลาถ่ายภาพช็อตเด็ดเพียง 5 นาที
  • การถ่ายด้วย Smart Phone
  • ไม่มีกฏตายตัว
  • ซ้อมถ่ายก่อนก็ดี
  • ปัจฉิมลิขิต
ตารางเวลาการเกิดปรากฏการณ์
(เป็นเวลาสำหรับผู้สังเกตการณ์ในพื้นที่ จ.ราชบุรี พื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทยอาจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย)
  • เวลา 18:32 น.ดวงอาทิตย์ตก เริ่มเข้าสู่แสงสนธยาทางการ (Civil Twilight) 
  • วลา 18:36 น.ดวงจันทร์เริ่มบังดาวศุกร์ (น่าจะมองไม่เห็น เนื่องจากแสงของดวงอาทิตย์ยังมีอิทธิพลอยู่ )
  • เวลา 18:41 น.ดาวศุกร์ถูกบังหมดดวง
  • เวลา 18:53 น.เริ่มเข้าสู่แสงสนธยาเดินเรือ (Nautical Twilight)
  • เวลา 19:18 น.เริ่มเข้าสู่แสงสนธยาดาราศาสตร์ (Astronomical Twilight) (น่าจะเริ่มมองเห็นดวงจันทร์และดาวศุกร์ หากท้องฟ้าโปร่ง ไร้เมฆไร้ฝุ่น)
  • เวลา 19:41 น.ดาวศุกร์เริ่มโผล่จากดวงจันทร์
  • เวลา 19:43 น.สิ้นสุดแสงสนธยาดาราศาสตร์ เริ่มมืด
  • เวลา 19:46 น.ดาวศุกร์โผล่พ้นดวงจันทร์ทั้งดวง 


คลิบวิดีโอจำลองดาวศุกร์บังดวงจันทร์
จัดทำจาก #Stellarium

มีเวลาถ่ายภาพช็อตเด็ดเพียง 5 นาที
ปรากฏการณ์แบบนี้ ใครมีกล้องระดับมืออาชีพ หรือใครจะถ่ายผ่านกล้องโทรทรรศน์ ก็ต้องคำนวณวางแผนเวลาและจังหวะให้พอดี ตอนดวงจันทร์เริ่มบังดาวศุกร์น่าจะถ่ายไม่ได้ เพราะมองไม่เห็น แสงดวงอาทิตย์ยังคงมีอิทธิพลอยู่ 

จังหวะที่น่าจะมองเห็นและถ่ายภาพได้ดีที่สุด คือ ตอนดาวศุกร์เริ่มโผล่พ้นดวงจันทร์จนหลุดพ้นทั้งดวง (เวลา 19:41-19:46 น.) ช่วงนี้แหละครับ ตั้งกล้องเตรียมได้เลยครับ กดชัตเตอร์รัว ๆ หรือ ใครจะถ่ายเป็นคลิบวิดีโอก็จะได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น เป็นคลิบวิดีโอประวัติศาสตร์ได้เลย 

การถ่ายด้วย Smart Phone
ใครมีแต่โทรศัพท์มือถือ แต่อยากถ่ายรูปเก็บไว้ในแกลอรี่ ถ่ายได้เช่นกันครับ โทรศัพท์มือถือเดี๋ยวนี้ มีฟีเจอร์ในการถ่ายภาพที่สุดยอดครับ  แต่ละยี่ห้ออาจมีโหมดที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าโทรศัพท์รุ่นใด ให้ยึดหลักการสำคัญ ไว้ดังนี้
  1. ให้ถ่ายรูปโดยใช้โหมดแสงน้อย หรือ โหมดถ่ายภาพในตอนกลางคืน  เช่น Night Mode, Supermoon, Master AI เป็นต้น
  2. หากโทรศัพท์เครื่องใดไม่มีโหมดดังกล่าวให้เลือกโหมดตั้งค่าถ่ายเอง (Manual Setting หรือ Pro mode)
  3. การ Zoom ให้ใช้ตามความสามารถของโทรศัพท์แต่ละรุ่นได้เลย หากกล้องมือถือรุ่นใดที่มี Optical Zoom หรือ Space Zoom ยิ่งดี (ไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ)
  4. การปรับโฟกัส ให้ใช้การปรับด้วยมือ (MF) โดยเลือกจุดโฟกัสไปที่ดวงจันทร์ 
  5. การใช้โหมดตั้งค่าเอง ให้คำนึง 3 ค่าหลัก ได้แก่ ISO, ความเร็วชัตเตอร์ (SS) และ WB (ประมาณ 3500K-4500K ขึ้นกับสภาพแสงของท้องฟ้าขณะนั้น)
  6. ใช้ขาตั้งกล้องในการถ่าย
  7. การกดชัตเตอร์ถ่ายภาพให้ใช้ระบบคำสั่งเสียง ระบบตั้งเวลา หรือรีโมทชัตเตอร์ (เซลฟี่) หลีกเหลี่ยงการแตะที่ตัวโทรศัพท์
  8. เลือกถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด (ถ้าเป็นมืออาชีพจะเซฟเป็นไฟล์ RAW ด้วย)

ไม่มีกฏตายตัว
การถ่ายภาพดวงจันทร์และดวงดาวในยามค่ำคืนด้วย Smart Phone ไม่มีกฏตายตัว เพราะแสงของวัตถุที่ถ่ายในแต่ละครั้ง แต่ละเวลา แต่ละสถานที่ไม่เท่ากัน ขอให้ผู้ถ่ายยึดหลักการที่กล่าวมาไว้เป็นสำคัญ ลองผิดลองถูก ลองปรับค่าต่าง ๆ ถ่ายหลาย ๆ ภาพ แล้วมาเปรียบเทียบกัน จนกว่าจะได้ภาพที่เราพอใจที่สุด วิธีการปรับค่า ผมขอแนะนำให้เตรียมวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ ไม่อย่างนั้นเวลาถ่ายจะสับสน เช่น 1)ปรับโฟกัสให้เรียบร้อย 2)ตั้งค่า WB ไว้ที่ 4500K แล้ว
  • แผน A ตั้งค่า ISO เป็นหลัก แล้วปรับความเร็วชัตเตอร์ (SS) ตาม เช่น ตั้ง ISO400 เป็นหลัก แล้วถ่ายด้วย SS 1วินาที, 5วินาที, 10วินาที, 15วินาที เป็นต้น
  • แผน B ตั้งค่า ความเร็วชัตเตอร์เป็นหลัก (SS) และปรับ ISO ตาม เช่น ตั้ง SS20วินาที เป็นหลัก แล้วถ่ายด้วย ISO100, 200, 400, 800, 1600 เป็นต้น
หลักสำคัญ คือ ถ่ายภาพ ---> ดูภาพ --->วิเคราะห์ --->ปรับค่าใหม่ --->ถ่ายภาพ ---> ดูภาพ ทำแบบนี้ เป็นวงรอบไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ภาพที่เราพอใจและเห็นว่าดีที่สุด

ซ้อมถ่ายก่อนก็ดี
หากให้ดีลองซ้อมถ่ายค่ำวันที่ 23 มี.ค.2566 ก่อนก็ได้ ลองถ่ายดวงจันทร์เสี้ยวขึ้น 2 ค่ำ พร้อมกับดาวศุกร์ดู อย่าลืมว่าแสงดวงจันทร์ไม่มาก และไม่สว่างเหมือนจันทร์เต็มดวง ดังนั้นการปรับตั้งค่าต่าง ๆ จึงต้องลองปรับกันดู พอวันถ่ายจริงมีเวลาเพียง 5 นาที จะได้ตั้งค่าประมาณนี้ได้เลย อาจมีการปรับค่าใหม่ก็เพียงเล็กน้อย ซ้อมดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ

ภาพจำลองค่ำวันที่ 23 มี.ค.2566 เวลา 19:15 น. จาก Stellarium
"ดวงจันทร์ขึ้น 2 ค่ำ กับ ดาวศุกร์"

ปัจฉิมลิขิต 
อย่าพลาดชมนะครับ เพราะกว่าจะได้ชมอีกครั้ง อีก 3 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว (14 ก.ย.2569)


******************************
จัดทำโดย
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
23 มี.ค.2566



บันทึกไว้ในปูม "มหกรรมท่องเที่ยวดูดาวครั้งแรกไทยของประเทศไทย"

เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 มีการจัด "Dark Sky Star Party" มหกรรมท่องเที่ยวดูดาวครั้งแรกของประเทศไทย ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี นับเป็นก้าวสำคัญของวงการดาราศาสตร์ไทยที่น่าชื่นชมยินดียิ่งนัก และอยู่ในสมัยเรา ถึงแม้ผมจะไม่ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมวาระแห่งประวัติศาสตร์นี้ ก็ขอแอบเก็บข้อมูลบันทึกไว้ในปูม เผื่อจะได้มีโอกาสนำรูปแบบมาจัดสเกลเล็ก ๆ  ที่ จ.ราชบุรีบ้านของผมบ้าง


สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NARIT) ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัด มหกรรมท่องเที่ยวดูดาว ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย “Dark Sky Star Party” ประเดิมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ณ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (อุทยานท้องฟ้ามืดในประเทศไทย)  จ.อุบลราชธานี  เป็นโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของท้องฟ้ายามค่ำคืน ในเขตอุทยานท้องฟ้ามืดที่มีทัศนวิสัยท้องฟ้าดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย โดยจัดในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 18 มี.ค.2566 เวลา 17:00-23:00 น.


เนื้อหา
  • ผังการจัดงาน
  • มีกิจกรรมอะไรบ้าง
  • Glow in the dark wisdom forest 
  • คาราวานกล้องโทรทรรศน์
  • การสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องสองตา
  • ถ่ายภาพกับกลุ่มดาวและวาดภาพด้วยแสง
  • Night Nature Walk
  • กิจกรรมพิเศษ
  • กิจกรรมประกอบอื่น ๆ 
  • สรุปท้ายเรื่อง
ผังการจัดงาน
ภาพรวมการจัดงาน ก็จะประกอบไปด้วยลานกางเต็นท์ จำนวน 3 แห่ง ที่จอดรถ จุดที่เป็น Landmark ได้แก่ เสาเฉลียง ผาหมอน และผาแต้ม  ลานจัดกิจกรรมหลักอยู่บริเวณผาแต้ม


มีกิจกรรมอะไรบ้าง
ในงานมหกรรมท่องเที่ยวดูดาวในครั้งนี้ จัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่
  • Zone 1 : Glow in the dark wisdom forest 
  • Zone 2 : คาราวานกล้องโทรทรรศน์
  • Zone 3 : การสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องสองตา
  • Zone 4 : ถ่ายภาพกับกลุ่มดาวและวาดภาพด้วยแสง
  • Zone 5 : Night Nature Walk
  • กิจกรรมพิเศษ 
    • เทคนิคการดูดาวด้วยตาเปล่า
    • Workshop เทคนิคการถ่ายภาพดาราศาสตร์เบื้องต้น

Glow in the dark wisdom forest 
เป็นกิจกรรมเรียนรู้เรื่องราวป่าไม้อันเป็นพื้นฐานของชีวิตและภูมิปัญญา ชมนิทรรศการภูมิปัญญาจากผืนป่าในบรรยากาศป่าเรืองแสง เข้าร่วมพิธีชงชา (Herbal tea ceremony) เพื่อเชื่อมต่อพลังธรรมชาติ และภูมิปัญาบรรพบุรุษเข้าสู่ตัวคุณ







คาราวานกล้องโทรทรรศน์
สัมผัสประสบการณ์ดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์นานาชนิด จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โรงเรียนเครือข่าย และนักดาราศาสตร์สมัครเล่น


กล้องโทรทรรศน์กว่า 30 ตัวกำลังชี้ไปที่ดาวศุกร์






การสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องสองตา
สนุกกับการดูดาวและวัตถุท้องฟ้านานาขนิดด้วยตัวเอง ผ่านแอพพลิเคชั่นดูดาว และอุปกรณ์พื้นฐานทางดาราศาสตร์ 





ถ่ายภาพกับกลุ่มดาวและวาดภาพด้วยแสง
สรรค์สร้างภาพเขียนแสงไฟยามค่ำคืน พร้อมดาวน์โหลดภาพกลับบ้านได้เลย



Night Nature Walk
สำรวจภาพเขียนสีและความงามของธรรมชาติยามค่ำคืน โดยแบ่งเป็น 2 รอบ คือ 19:00 น. และ 21:00 น.



กิจกรรมพิเศษ
เทคนิคการดูดาวด้วยตาเปล่า และ  Workshop เทคนิคการถ่ายภาพดาราศาสตร์เบื้องต้น





กิจกรรมประกอบอื่น ๆ 
  • บรรยากาศ red market ในงาน : ตลาด food truck วินเทจ สุดแสนอบอุ่น ภายใต้เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ทุกร้านพร้อมใจกันตกแต่งด้วยหลอดไฟสีแดง ซึ่งเป็นสีที่รบกวนสายตา และระบบนิเวศน้อยที่สุด เป็นตลาดที่ชิค ชิล และอาหารอร่อยมาก



สรุปท้ายเรื่อง
การจัดมหกรรมท่องเที่ยวดูดาวครั้งยิ่งใหญ่  “Dark Sky Star Party” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย จากการแสดงความคิดเห็นในโซเซียลมีเดียต่าง ๆ ล้วนชื่นชมว่า จัดได้ดีมาก ทำให้เรื่องดาราศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ  หลายท่านก็โพสต์เสียดายว่าไม่ได้ไปร่วมเพราะอยู่ไกล อยากให้มีจัดกิจกรรมอย่างนี้ ในภาคอื่น ๆ บ้าง 

สำหรับเรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขก็คือ พื้นที่กางเต็นท์ มีห้องอาบน้ำและห้องสุขา ให้บริการน้อยไปหน่อย ไม่เพียงพอที่จะรับนักท่องเที่ยวสายแคมป์คราวเดียวกันจำนวนมากได้ 


งานนี้ ถือว่าเป็นความสำเร็จของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NARIT) ที่สามารถผลักดันให้คนไทยหันมาสนใจดาราศาสตร์และทำให้ผู้คนได้รู้จักและรับรู้ ความสำคัญของเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ที่จะช่วยลดมลพิษทางแสง ได้สำเร็จ และเช่นเดียวกัน ย่อมเป็นความสำเร็จของหน่วยงานสนับสนุนสำคัญด้วย ก็คือ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของวงการดาราศาสตร์ของประเทศไทยสืบต่อไป

********************
รวบรวมและเรียบเรียงโดย
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
20 มี.ค.2566

ที่มาข้อมูล
  • อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park. (19 มี.ค.2566). เฟสบุ๊คบุคคลสาธารณะ. [Online]. Available : https://www.facebook.com/pt074. [2566 มีนาคม 20].
  • Wirati Keeratikanchai. (19 มี.ค.2566). เฟสบุ๊คส่วนตัว. [Online]. Available : https://www.facebook.com/wirati. [2566 มีนาคม 20].
  • NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ. (19 มี.ค.2566). เพจเฟสบุ๊ค. [Online]. Available : https://www.facebook.com/NARITpage. [2566 มีนาคม 20].
  • NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ. (24 ก.พ.2566). เพจเฟสบุ๊ค. [Online]. Available : https://www.facebook.com/NARITpage. [2566 มีนาคม 20].

ดูดาวง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยกลุ่มดาวที่เป็น Landmark

การพยายามสร้างความรู้ทางดาราศาสตร์แก่บุคคลทั่วไปแบบง่าย ๆ เป็นพื้นฐานแรกที่สำคัญ ที่จะต่อยอดความสนใจของพวกเขาให้อยากเรียนรู้มากยิ่งขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ การสอนให้พวกเขาดูดาวเป็น โดยเริ่มต้นจากกลุ่มดาวที่เป็น Landmark ยอดนิยม

กลุ่มดาวนายพราน (Orion) Landmark ยอดนิยม
ที่มาของภาพ (Richard Jones Ponca City Astronomy. 2565)

เนื้อหา
  • ดูดาวได้
  • ถ่ายภาพเป็นด้วย Smart Phone
  • เริ่มต้นด้วยดวงจันทร์
  • ดาวเคราะห์ 3 ดวง
  • กลุ่มดาวที่เป็น LANDMARK
  • สามเหลี่ยมฤดูหนาว
  • หกเหลี่ยมฤดูหนาว
  • สรุปท้ายเรื่อง
ดูดาวได้ 
หลายคนอยากดูดาว แต่พอแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าเห็นดวงดาวมากมาย แล้วรู้สึกท้อ เพราะดูไม่รู้เรื่องว่ามันคือ ดาวอะไรบ้าง ยิ่งชื่อดาวก็จำยากเป็นภาษาต่างประเทศทั้งนั้น ส่วนชื่อดาวภาษาไทยซึ่งเป็นที่รู้จักกัน ก็มีไม่มากนัก เช่น ดาวไถ ดาวโจร ดาวจระเข้  ดาวลูกไก่ฯ  แต่ก็ไม่รู้อีกว่า "ดาวพวกนี้มันอยู่ตรงไหน"

บทความนี้จะชวนเริ่มต้นดูดาวแบบง่าย ๆ จากกลุ่มดาวที่เป็นจุดสังเกต (LandMark) ยอดนิยม ที่ใคร ๆ เงยหน้าขึ้นไปก็มองเห็น แล้วค่อย ๆ แกะรอยหาดาวดวงอื่น ๆ ต่อไป 

ถ่ายภาพเป็นด้วย Smart Phone
โทรศัพท์มือถือ (Smart Phone) เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับคนในยุคสมัยนี้ จนถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เวลาไปเที่ยวในสถานใด จะต้องถ่ายภาพด้วย Smart Phone เป็นที่ระลึก และโพสต์ให้โลกรู้ ผ่านโซเซียลมีเดียต่าง ๆ เสมอ ดวงดาวก็เช่นกัน มันเป็นภาพของธรรมชาติที่สวยงามที่มีมานานแสนนาน หากทุกคน สามารถถ่ายภาพดวงดาวได้ นับว่าเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่น่าจดจำอีกวาระหนึ่ง การสอนถ่ายภาพดาวด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ จึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่ควรจะสอนให้พวกเขาถ่ายเป็น 

ที่มาของภาพ (Pete Lawrence. 2562)

เริ่มต้นด้วยดวงจันทร์
ในแต่ละค่ำคืน แต่ละเดือน แสงของดวงจันทร์ก็จะเปลี่ยนไปตั้งแต่เต็มดวง จนถึงเดือนมืด มีข้างขึ้น ข้างแรม มีเวลาขึ้น-ตก แตกต่างกันไปในแต่ละวัน บางวันดวงจันทร์ก็ค้างฟ้า ซึ่งเรามักจะเห็นได้ตอนดวงอาทิตย์ขึ้นใหม่ ๆ  หรือก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกดิน และในบางครั้งดวงจันทร์ก็อาจโคจรผ่านดาวเคราะห์ หรือกลุ่มดาวต่าง ๆ  มีทั้งการรวมกลุ่ม การเดินขบวนพาเหรด การเคียงข้างกัน เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก  ดังนั้น สำหรับผู้เริ่มต้นดูดาว ข้อแรกที่ขอแนะนำคือ "การสังเกตดวงจันทร์"

การสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ท้องฟ้า และดิถีจันทร์ ในแต่ละเดือน ขอแนะนำให้ดูในเว็บไซต์ Myhora.com (คลิกชมรายละเอียด)
ปรากฏการณ์ท้องฟ้าและดิถีจันทร์ เดือนมีนาคม 2566
ที่มาของภาพ (Myhora. 2566)
ดาวเคราะห์ 3 ดวง
ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราที่มองเห็นด้วยตาปล่าว คือ  ดาวศุกร์ ดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดี (ดาวพุธ และดาวเสาร์ เห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง แล้วแต่สภาพของท้องฟ้า ส่วนดาวเนปจูน และยูเรนัส ต้องมองผ่านกล้องดูดาว)  ซึ่งดาวเคราะห์เหล่านี้ ก็จะโคจรเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ  เกิดเป็น การชุมนุมของดาวเคราะห์ (planetary grouping/conjunction) การเรียงตัวของดาวเคราะห์  (planetary alignment) หรือ ขบวนพาเหรดของดาวเคราะห์ (planetary parade) บางครั้งก็ไปประกอบกับตำแหน่งดวงจันทร์ ก็จะกลายเป็น "ดาวเคียงเดือน" เป็นต้น เรื่องราวการโคจรของดาวเคราะห์นี้ มีให้เราได้ฝึกสังเกตการณ์และถ่ายภาพได้ตลอดทั้งปี

การเรียงตัวหรือขบวนพาเหรด ของดาวเคราะห์ ซึ่งมีปรากฏการณ์ให้เห็นเสมอ
ที่มาของภาพ (SHAILAJA TRIPATHI. 2565)

กลุ่มดาวที่เป็น Landmark
กลุ่มดาวในท้องฟ้าที่มีการบันทึกไว้มีจำนวน 88 กลุ่ม กลุ่มดาวที่เป็น Landmark สำคัญกลุ่มแรกที่แนะนำให้เริ่มต้นดู คือ กลุ่มดาวนายพราน (Orion) สังเกตได้จากดาวเรียงตัวกัน 3 ดวงมองเห็นเด่นชัด (มักจะเรียกว่า เข็มขัดนายพราน) หากประกอบกับกลุ่มดาวรูปโค้ง ๆ ซึ่งคล้ายคันไถที่ใช้ไถนา คนไทยจีงเรียกชื่อว่า ดาวไถ 

กลุ่มดาวนายพราน (Orion Constellation)

กลุ่มดาวนายพรานเป็นกลุ่มดาวที่โดดเด่นที่สุดในท้องฟ้าเกือบทุกฤดู  กลุ่มดาวนี้ทำหน้าที่เป็นจุดสังเกตเริ่มต้น เพื่อแกะรอยกลุ่มดาวและวัตถุอื่น ๆ บนท้องฟ้าต่อไป

จากภาพด้านบน ดาวสีเหลืองทางซ้ายเข็มขัดนายพรานคือ ดาวเบเทลจูส (Betelgeuse)  และดาวด้านขวา คือ ดาวไรเจล (Rigel) 


หากลากเส้นตรงจากดาวไรเจล ผ่านเข็มขัดนายพราน ไปยังดาวเบเทลจูส ตรงไปเรื่อย ๆ  ก็จะพบกับ ดาวพอลลักซ์ (Pollux) 
อยู่ใน กลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ในราศีเมถุน 

หากลากเส้นตรงตามดาวสามดวงของเข็มขัด ไปทางด้านหลังของนายพราน หรือด้านที่เป็นคันไถ ก็จะเจอดาวสว่างที่สุดของท้องฟ้าคือ  ดาวซิริอัส (Sirius) หรือคนไทยเรียกว่า ดาวโจร อยู่ใน กลุ่มดาวหมาใหญ่ (Canis Major)  


สามเหลี่ยมฤดูหนาว 
หากเราลองลากเส้นสมมุติระหว่าง ดาวซิริอุส และดาวเบเทลจูส แล้ว ลองหาดาวสว่างอีกดวงหนึ่ง ซึ่งเมื่อโยงเส้นเข้าด้วยกันแล้ว จะเกิดเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ก็จะพบว่ามันคือ ดาวโพรซิออน (Procyon) อยู่ใน กลุ่มดาวหมาเล็ก (Canis Minor) ซึ่งรูปสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นนี้ เรียกว่า สามเหลี่ยมฤดูหนาว (Winter Triangle)

หากลากเส้นตั้งฉากจากฐานของสามเหลี่ยมฤดูหนาวผ่านดาวเบเทลจูสขึ้นไป ก็จะพบดาวสว่างอีก 1 ดวง คือ ดาวอัลเดบารัน (Aldebaran) หรือ ดาวตาวัว อยู่ใน กลุ่มดาววัว (Taurus) ในราศีพฤษภ ซึ่งในกลุ่มดาวนี้ก็จะพบ กลุ่มดาวยอดนิยมอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า กลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiades) หรืออีกชื่อคือ กลุ่มดาวกฤติกา

หกเหลี่ยมฤดูหนาว
หกเหลี่ยมฤดูหนาว ( Winter Hexagon) บางครั้งเรียกว่าวงกลมฤดูหนาว เกิดจากการลากเส้นสมมุติระหว่างดาว 6 ดวง คือ 1)ดาวซิริอุส 2)ดาวโพรซิออน 3)ดาวพอลลักซ์ 4)ดาวคาเพลลา 5)ดาวอัลเดบารัน และ 6)ดาวไรเจล

สามเหลี่ยมและหกเหลี่ยมฤดูหนาวนี้ จะเกิดในซีกโลกเหนือช่วงฤดูหนาว

เอาแค่กลุ่มดาวนายพราน นี้ ผู้เริ่มต้นใหม่ก็จะรู้จักดาวหลายดวงแล้วครับ เมื่อดูจนเข้าใจแล้ว ก็ค่อย ๆ แกะรอยไปยังดาวดวงอื่น ๆ ต่อไป

ดาวพฤหัสบดี กับ ดาวศุกร์ มาบรรจบกันเหนือท้องฟ้าประเทศเยอรมันนี
ที่มา : ภาพประจำวันที่ 15 มี.ค.2566 ของ NASA

สรุปท้ายเรื่อง
จากวิธีการดูดาวง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นที่กล่าวมาข้างต้น  ทางชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี  จึงได้จัดให้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร "ดูดาวและถ่ายภาพดาวด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ" ให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง เน้นการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ (Learning by doing) มุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถ "ดูดาวได้ ถ่ายภาพเป็น" 

สนใจดูรายละเอียดหลักสูตรได้ที่ https://astronomyratchaburiclub.blogspot.com/p/blog-page_27.html

**********************************
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
17 มี.ค.2566



ที่มาข้อมูล
  • SHAILAJA TRIPATHI. (2565). Venus, Mars, Jupiter, Saturn to align in straight line after 1,000 years- Where and How to watch celestial event?. [Online]. Available : https://www.jagranjosh.com/current-affairs/venus-mars-jupiter-saturn-to-align-in-straight-line-after-1000-years-where-and-how-to-watch-celestial-event-1651053037-1. [2566 มีนาคม 16].
  • Myhora. (2566). ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (Sky Events). [Online]. Available : https://www.myhora.com/astronomy/sky-events.aspx. [2566 มีนาคม 16].
  • Richard Jones Ponca City Astronomy. (2565).  The Orion Constellation. [Online]. Available : https://www.poncacitynews.com/news/orion-constellation. [2566 มีนาคม 16].
  • Pete Lawrence. (2562). Photograph the night sky with your smartphone. [Online]. Available : https://www.skyatnightmagazine.com/astrophotography/astrophoto-tips/smartphone-astrophotography-use-your-phone-to-capture-the-night-sky/. [2566 มีนาคม 16].

เคอร์ฟิวแสงสว่างในเมืองใหญ่ ลดมลพิษทางแสง ประหยัดพลังงาน

บรรษัทที่ปรึกษาของกรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ได้เสนอให้ตั้งโซนความสว่าง (Brightness Zone) ลดการใช้ไฟฟ้าส่องสว่างที่ไม่จำเป็น


กรุงลอนดอน : เคอร์ฟิวการใช้ไฟ
Dark-sky Thailand ได้โพสต์ลงในเพจเฟสบุ๊ค กล่าว
ว่า บรรษัทที่ปรึกษาของกรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ได้เสนอให้ตั้งโซนความสว่าง (Brightness Zone) ลดการใช้ไฟฟ้าส่องสว่างที่ไม่จำเป็นทั้งในและนอกอาคารกลางเมือง เป็นพื้นที่ 1.12 ตารางไมล์หรือราว 1,813 ไร่ เริ่มจากทาวเวอร์อ็อฟลอนดอน (Tower of London) โดยเสนอให้เคอร์ฟิวการใช้ไฟ 3 ขั้นตอน คือ 
  1. ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ให้อาคารที่อยู่อาศัยและพื้นที่อนุรักษ์ ปิดไฟ 
  2. ตั้งแต่ 5 ทุ่ม ปิดไฟพื้นที่ทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว 
  3. หลังเที่ยงคืน ปิดไฟสถานีขนส่ง ค้าปลีก และอาคารสำนักงาน 
โดยวิธีการปิดไฟแนะนำให้ใช้อุปกรณ์เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติแบบตั้งเวลา และแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (ยกเว้นพื้นที่ ๆ ที่จำเป็นต้องมีไฟส่องสว่างเพื่อความปลอดภัย)

โดยข้อเสนอดังกล่าวเป็นเพียงคำแนะนำแนวทางปฏิบัติ ไม่ใช่กฎระเบียบที่จะให้ทุกคนต้องทำตาม คงเพียงแต่ขอความร่วมมือเท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการลดมลพิษทางแสง ลดการใช้พลังงาน และการก่อก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือ เชื่อว่าจะช่วยให้การก่อคาร์บอนในพื้นที่ 1 ตารางไมล์ของกรุงลอนดอนนี้ ให้เป็นศูนย์ได้ ภายในปี พ.ศ.2583

เสนอเมืองหลวงไทยลองทำบ้าง
ทาง Dark-sky Thailand ได้นำแนวคิดนี้ เสนอต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลองพิจารณาให้มีการตั้งโซนทดลอง (pilot zone)  เพื่อนำร่องดู โดยดำเนินการดังนี้ 
  1. ใช้โคมบังคับแสงไฟให้ส่องลงถนน/ทางเท้า ไม่ให้ขึ้นฟ้า ซึ่งจะใช้หลอดไฟที่ใช้พลังน้อยลงได้แต่ให้ความสว่างเท่าเดิม 
  2. ใช้ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว อันจะลดการใช้ไฟฟ้าได้มากที่สุด แถมยังได้ความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสามารถสังเกตุได้ว่ามีคนอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ 
  3. เปลี่ยนหลอดไฟให้ใช้แต่ชนิดอุณหภูมิสีไม่เกิน 3000K เพื่อลดผลกระทบต่อมนุษย์ สัตว์และพืช
เริ่มต้นจากเคอร์ฟิวส์แสงสว่างในเมือง
เรื่องเคอร์ฟิวส์แสงสว่างในเมืองนี้ เป็นแนวคิดที่ดี และกระทำได้ง่ายที่สุด  เราลองเริ่มจากเขตเทศบาลตำบลเล็ก ๆ ก่อนก็ได้ เพียงแต่ขอให้นายกเทศมนตรีตำบลนั้น ๆ  มีวิสัยทัศน์ กล้าทำ และกล้าริเริ่ม  โดยหลักการแรกก็คือ "ต้องควบคุมการเปิดและปิด ไฟส่องสว่างที่เป็นสาธารณะในพื้นที่ให้ได้เสียก่อน"

ไฟส่องถนนที่เปิดทิ้งไว้ถึงเช้า แม้จะไม่มีการสัญจร

ปัจจุบัน เรามักจะชอบออกแบบไฟส่องสว่างถนน หรือไฟส่องสว่างในพื้นที่ที่เป็นสาธารณะ แบบเปิด-ปิด ด้วยระบบสวิทซ์แสง (Photo switch) คือ เมื่อมืด-ไฟจะเปิด เมื่อสว่าง-ไฟจะปิด ซึ่งเป็นหลักการที่ไม่ถูกต้อง เพราะไฟส่องสว่างระบบนี้จะเปิดทั้งคืน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครใช้ประโยชน์ เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ก่อให้เกิดมลพิษทางแสง ก่อก๊าซเรือนกระจก ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ยกตัวอย่างเหตุการณ์ง่าย ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า เราใช้ไฟแสงสว่างมากเกินความจำเป็น  เช่น
  • สวนสาธารณะ ที่เปิดไฟทั้งคืนจนถึงเช้า ทั้ง ๆ ที่ สวนสาธารณะนั้นปิดให้บริการแค่เวลา 21:00 น.
  • ไฟส่องสว่างถนน/ทางเดิน ที่เปิดไฟทั้งคืนจนถึงเช้า  ทั้ง ๆ ที่หลัง 22:00 น. แทบจะไม่มีรถวิ่งหรือคนเดิน
  • ลานจอดรถสาธารณะ ที่เปิดไฟทั้งคืน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีรถจอด
  • อาคาร สถานที่ราชการ สถานศึกษา โรงเรียน ที่เปิดไฟสว่างไสวเกินความจำเป็นตลอดทั้งคืน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีกิจกรรมใดใด เพียงเปิดเพื่อประดับตกแต่งและป้องกันการลักโขมย
  • ฯลฯ
สวนสาธารณะที่ปิดบริการแล้ว แต่กลับเปิดไฟไว้ทั้งคืน

ไฟถนนที่สว่างเกินความจำเป็น  ควรสามารถปิดไฟได้ เมื่อไม่มีคนสัญจร

ระบบเปิด-ปิดไฟส่องสว่างที่ดี 
ไฟส่องสว่างที่ดี ควรใช้ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาได้ตามที่ต้องการ และหลังจากไฟดับแล้ว ควรมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หากมีการเคลื่อนไหว ไฟก็จะติดเองโดยอัติโนมัติ ซึ่งหากตรงไหนมีไฟติดขึ้น ก็จะทำให้เรารู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นมีการเคลื่อนไหว

การเคอร์ฟิวส์แสงสว่าง แบบที่บรรษัทที่ปรึกษาของกรุงลอนดอนเสนอ อาจเริ่มได้ในเทศบาลตำบลเล็ก ๆ ของประเทศไทย โดยตั้งแต่ 4 ทุ่มให้อาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ ปิดไฟที่ไม่จำเป็น  พอ 5 ทุ่ม ปิดไฟพื้นที่บริการสาธารณะต่าง ๆ  พอเที่ยงคืนปิดไฟถนนหนทาง เหลือไว้เฉพาะที่ที่จำเป็นที่ต้องมีไฟส่องสว่างเพื่อความปลอดภัย 

อ่านเพิ่มเติม
************************
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
13 มี.ค.2566



ที่มาข้อมูล
  • Dark-Sky Thailand. (2566). [Online]. Available : https://web.facebook.com/photo?fbid=654970169968827&set=a.186298633502652. [2566 มีนาคม 13].