แนวทางการจัดกิจกรรม "เดินชมเมืองยามค่ำ (Dark city walks)" สนับสนุนสัปดาห์ท้องฟ้ามืดสากล
กิจกรรม "เดินชมเมืองยามค่ำ (Dark city walks)" เป็นกิจกรรม 1 ใน 6 กิจกรรมที่สมาคมท้องฟ้ามืดสากล (International Dark-Sky Association - IDA) เขิญชวนให้ทำเพื่อสนับสนุน "สัปดาห์ท้องฟ้ามืดสากลปี 2565 (International Dark Sky Week 2022)" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-30 เม.ย.2565 ภายใต้แคมเปญ "Discover the Night" โดย IDA ได้จัดทำคู่มือเพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมในฐานะการเป็นเจ้าภาพ (Host a night walk) ไว้แล้ว แต่ผมได้นำมาปรับปรุงและดัดแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ในบ้านเรา ซึ่งพอจะสรุปแนวทางได้ ดังนี้
แนวทางการจัดกิจกรรม Dark city walks
(ปรับปรุงจาก Landon Bannister. 2565)
(ปรับปรุงจาก Landon Bannister. 2565)
ชื่อกิจกรรม "เดินชม (..ชื่อเมือง..) ยามค่ำ"
คำขวัญ Discover the Night
คำขวัญ Discover the Night
ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม ประมาณ 1 ชั่วโมง (หลังมืด)
การแต่งกายผู้เข้าร่วมเดิน รัดกุม ทะมัดทะแมง ใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน กระติกน้ำดื่มประจำตัว สวมเสื้อกั๊ก หรือติดแถบสะท้อนแสงที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลในตอนกลางคืน
อุปกรณ์ที่ผู้นำกิจกรรมควรมี เสาธงไกด์นำขบวน (หากมีสัญญาณไฟที่หัวเสาก็จะดี) , ป้ายกิจกรรม, ไฟฉาย ,ไฟเลเซอร์สำหรับชี้เป้าสีแดง ,อุปกรณ์ประกอบการนำชมที่จำเป็น และหากกลุ่มมีขนาดใหญ่ควรมีโทรโข่งสำหรับบรรยาย
ขนาดของกลุ่ม ไม่ควรเกิน 25 คน (อาจเริ่มต้นจากคนในครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิท และกลุ่มคนที่สนใจ)
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- การเดินให้ปฏิบัติตามกฏหมายของท้องถิ่นทุกประการ เช่น เดินบนทางเท้า ข้ามถนนที่ทางม้าลาย หรือบนสะพานลอย เป็นต้น
- ต้องกำหนดวันทำกิจกรรม จุดเริ่มต้น-เวลา และ จุดสิ้นสุด-เวลา ให้ชัดเจน
- เส้นทางการเดิน อาจวนเป็นวงกลมกลับมาที่เดิม หรือ One way ก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
- ควรมีจุดแวะพัก (ที่จัดเตรียมไว้ก่อน) เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับมลพิษทางแสงจำนวน 8-12 จุด
- ควรเริ่มต้นเดินหลังมืด (หลังดวงอาทิตย์ตกดินไปแล้ว)
- ควรมีผู้ช่วยในการจัดกิจกรรม 1-2 คน (แล้วแต่ขนาดของกลุ่ม)
- ผู้ทำกิจกรรมควรสำรวจเส้นทางเดินและจุดพักก่อนล่วงหน้า เพื่อนำมาจัดทำแผนปฏิบัติจริง
- หากในเมืองมีผู้คนหรือการจราจรหนาแน่น ควรแจ้งเจ้าหน้าที่จราจรหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวก
- จัดกิจกรรมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด
ก่อนเดิน ควรนัดรวมพลที่จุดเริ่มต้นเพื่อชี้แจงการปฏิบัติ ก่อนเริ่มกิจกรรมประมาณ 30 นาที
- ให้ทุกคนแนะนำตัวซึ่งกันและกัน
- อธิบายวัตถุประสงค์ของการเดิน และผลกระทบจากมลพิษทางแสงเบิ้องต้น
- แนะนำการปฏิบัติ และกฏต่าง ๆ รวมถึงจุดพักในระหว่างการเดินชมเมือง
การเรียนรู้สำคัญที่ควรแนะนำในระหว่างเดินและที่จุดพัก
ผู้จัดกิจกรรมควรไปสำรวจสถานที่ต่าง ๆ แล้วนำมาวางแผนล่วงหน้า เพื่อจัดเตรียมข้อมูลในการบรรยายประกอบระหว่างการเดินทาง หรือเมื่อถึงจุดพัก ควรหาพื้นที่ที่มีการจัดการแสงไฟที่สามารถอธิบายประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับมลพิษทางแสง ดังที่จะกล่าวต่อไปเหล่านี้ได้
*********************************
แสงจ้าเป็นศัตรูของแสงที่ดี (Glare is the enemy of good lighting)
แสงจ้ามากเกินไปที่ส่องเข้าตาเรา จะทำให้เรามองไม่เห็นสิ่งของหรือวัตถุที่อยู่ด้านหลังของแหล่งกำเนิดแสงนั้น แต่หากมีการจัดแสงไฟที่พอดี ตำแหน่งเหมาะสม และไม่จ้าเกินไป จะทำให้เรามองเห็นสิ่งของหรือวัตถุโดยรอบได้ครบถ้วน และมีความรู้สึกปลอดภัยมากกว่า
ตัวอย่าง แสงจ้าทำให้มองไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ที่ประตู หากเอามือบังแสง จะทำให้มองเห็นคนที่ยืนอยู่ที่ประตูได้ชัดเจน |
*********************************
การสูญเสียแสงที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า (Wasted uplight)
การสูญเสียแสงที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า (Wasted uplight)
มองหาสถานที่ที่ออกแบบโคมไฟถนน "ไม่ดี" ซึ่งพอเปิดแล้วจะมีแสงพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ซึ่งจริง ๆ แล้วแสงควรส่องลงมาที่พื้นถนนที่เราใช้ประโยชน์เท่านั้น แสงที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าจะมีเฉพาะตามสนามบินที่ส่องเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เครื่องบินลงจอดเท่านั้น หากมีโคมไฟลักษณะนี้ เท่ากับว่าเราสูญเสียแสงไปบนท้องฟ้าแบบไร้ประโยชน์ แสงที่สูญเสียเหล่านี้ ก่อให้เกิดปรากฏการณ์แสงเรืองบนท้องฟ้า (Sky Glow) แสงเหล่านี้จะกระเจิงผ่านตัวกลางขนาดเล็กในอากาศ เช่น เมฆ หมอกควัน และอนุภาคในชั้นบรรยากาศ ปรากฏเป็นแสงเรืองทั่วท้องฟ้าและสังเกตเห็นได้แม้จะอยู่ห่างไกลออกไป
ตัวอย่าง Sky Glow จากเมือง |
ตัวอย่าง Sky Glow จากเมือง |
*********************************
แสงที่สว่างมากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ (To much light is a bad thing)
แสงที่สว่างมากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ (To much light is a bad thing)
ในพื้นที่ที่มีจุดที่สว่างมากหลาย ๆ จุด แลดูสับสนจะทำให้มองเห็นไม่ชัด และหากพื้นที่ใดมีจุดที่สว่างมากตัดกับจุดที่มืดอย่างชัดเจน จะทำให้บริเวณโดยรอบดูมืด อาจทำให้เกิดปัญหาในการมองเห็น และปัญหาด้านความปลอดภัยได้
ตัวอย่าง To much light is a bad thing |
ตัวอย่าง To much light is a bad thing |
*********************************
ความสว่างของแสงแค่ไหนที่เราต้องการ (How much light do we need?)
ความสว่างของแสงแค่ไหนที่เราต้องการ (How much light do we need?)
เรื่องนี้อาจไม่มีใครตอบได้ บางคนก็ชอบสว่างมาก แต่บางคนก็ชอบสว่างน้อย แค่พอมองเห็นก็พอ ความสว่างของแสงที่แต่ละคนต้องการไม่มีค่าที่ตายตัว หลอดไฟจึงมีให้เลือกหลายขนาด เช่น 100 วัตต์ 60 วัตต์ 40 วัตต์ เป็นต้น ดังนั้น จึงต้องตั้งคำถามอยู่เสมอว่า แสงสว่างมากแค่ไหนที่คุณต้องการในสถานที่นั้น ๆ
ตัวอย่าง How much light do we need? |
*********************************
การใช้สีที่เหมาะสม (Appropriate use of colour)
การใช้สีที่เหมาะสม (Appropriate use of colour)
สีของไฟที่ไม่เหมาะสม ทำให้เรื่องราวหรืออัตลักษณ์ของพื้นที่นั้น ๆ เปลี่ยนไป อย่างนี้ถือว่าสีของไฟเป็นมลพิษทางแสงรูปแบบหนึ่งที่ทำลายบรรยากาศและภูมิทัศน์ สีของไฟจะเพิ่มความยุ่งเหยิงของภาพ และความสับสนให้กับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของพื้นที่นั้น ๆ
มนุษย์นั่งล้อมกองไฟที่เป็นแสงอบอุ่นมาเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ส่วนใหญ่จึงมีความรู้สึกปลอดภัย และสบายใจ หากอยู่ภายใต้แสงอบอุ่นมากกว่าอยู่ภายใต้แสงเย็น นอกจากนั้นแสงอบอุ่นยังก่อให้เกิดมลพิษทางแสงที่มีต่อท้องฟ้าและสัตว์ป่า น้อยกว่าแสงเย็นอีกด้วย
*********************************
แสงควรอยู่ในที่ที่ต้องการแสง (Light where light is needed)
แสงควรอยู่ในที่ที่ต้องการแสง (Light where light is needed)
การออกแบบที่ดีต้องให้แสงส่องไปยังพื้นที่ที่ต้องการใช้แสง การออกแบบที่ไม่ดีจะทำให้แสงเล็ดลอดหรือฟุ้งกระเจิงไปรบกวนผู้คน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่เว้นแม่แต่ต้นไม้ แสง..หากไปอยู่ในที่ที่ไม่ต้องการแสง แสงนั้น..จะไม่มีประโยชน์และทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น หากเดินชมเมืองก็จะพบกับสถานที่ที่ไม่ต้องการแสง แต่กลับมีแสง ให้เห็นอยู่จำนวนมากมาย
ตัวอย่าง Light where light is needed |
*********************************
จำเป็นต้องมีไฟแสงสว่างไหม (Does it need to be liit?)มีคำถามว่า ที่ใดบ้างที่เราต้องการแสงสว่าง และต้องการไปเพื่ออะไร แล้วที่นั่นจำเป็นต้องมีไฟแสงสว่างหรือไหม เวลาเราเดินในเมืองยามค่ำคืน เราก็จะพบเห็นสถานที่ที่ไม่จำเป็นต้องมีแสงไฟ แต่กลับเปิดไฟไว้สว่างจ้า เช่น ลานจอดรถที่ไม่มีคนจอด ถนนที่ไม่มีคนสัญจรไปมา สวนสาธารณะที่ปิดแล้ว อาคารที่ไม่มีคนทำงาน บางสถานที่ที่มีสัตว์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ แทนที่จะได้พักผ่อนหลับนอน แต่กลับทำไม่ได้เพราะเปิดไฟสว่างจ้าเหมือนเวลากลางวัน แม้แต่ต้นไม้เองก็ยังไม่ต้องการแสงในเวลากลางคืนอีกด้วย แสงเหล่านี้เสียค่าใช้จ่าย และสิ้นเปลืองพลังงานไปโดยปล่าวประโยชน์ แถมก่อให้มลพิษทางแสงอีกด้วย
ตัวอย่าง เช่น สื่อป้ายโฆษณาดิจิตอล ป้ายโฆษณาเรืองแสง หรือแม้แต่อาคารสำนักงานที่เปิดไฟทิ้งไว้ ทั้งหมดนี้ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดปัญหามลพิษทางแสง ต้องถามว่า "ใครได้ประโยชน์" แสงไฟจากสื่อเหล่านี้กำลังยึดครองเมืองของเราเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าของตนเองเพียงเท่านั้น
ตัวอย่าง Light pollution from other source |
*********************************
หาพื้นที่ตัวอย่างที่มีการจัดแสงได้เหมาะสม
หากเมืองของคุณมีสถานที่ที่มีการจัดการแสงไฟอย่างเหมาะสม ก็ควรพากลุ่มทั้งหมดไปชม และอธิบายให้ฟัง แต่ดูเหมือนจะหายากมาก เพราะส่วนใหญ่เมืองต่าง ๆ ในประเทศไทย ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการจัดการแสงประดิษฐ์ โดยเฉพาะแสงจากโคมไฟถนนมาตั้งแต่ต้น มลพิษทางแสงจึงเกิดขึ้นมากมายตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของเรา
ภาพต่อไปนี้เป็นภาพตัวอย่างของระบบไฟฟ้าส่องสว่างในเมืองแห่งหนึ่ง โดยติดตั้งระบบควบคุมไฟถนนอัจฉริยะของ Philips และ Vodafone แบบไร้สาย ที่พยายามลดมลพิษทางแสงที่ทำลายสุขภาพของมนุษย์และลดปริมาณแสงเรืองที่ส่องขึ้นบนท้องฟ้า รวมทั้งควบคุมเวลาเปิด-ปิดให้ประหยัดการใช้พลังงานให้ได้มากที่สุด (ที่มาของภาพ new atlas. 2559)
แนวทางการจัดกิจกรรม "เดินชมเมืองยามค่ำ" ที่กล่าวมาเป็นแค่คำแนะนำเท่านั้น ท่านสามารถนำไปประยุกต์หรือดัดแปลงให้สอดคล้องกับบริบทในเมืองของท่านเองได้เลยครับ ท่านใดที่อยู่ในเมืองใหญ่ ๆ อาจจะทำได้ยากหน่อย แต่ก็น่าจะไม่เกินขีดความสามารถ
หากท่านใด กลัวว่าจะหากลุ่มไม่ได้ ลองเริ่มต้นจากครอบครัว และเพื่อนสนิทก่อน เอาสัก 4-5 คนก็พอ อย่างน้อยก็ได้ออกกำลังกายเดินเล่นในเมืองยามค่ำคืน แบบชิล ชิล แถมยังได้ความรู้เรื่องมลพิษทางแสงอีกด้วย หากมีกลุ่มที่ทำกิจกรรมนี้ สัก 1,000 กลุ่มในประเทศไทย ก็จะมีคนมีความรู้เรื่องมลพิษทางแสงเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 4-5000 คน เลยทีเดียว
อ่านความรู้เกี่ยวกับมลพิษทางแสงเพิ่มเติม
*********************
รวบรวมและเรียบเรียงโดย
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
5 เม.ย.2565
รวบรวมและเรียบเรียงโดย
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
5 เม.ย.2565
ที่มาข้อมูลและภาพ
- Landon Bannister. (2565). DARK CITY WALK- How-to Guide.pdf. [Online]. Available : https://darksky.app.box.com/s/thc47g0pjzsifght20k09mt5l0p01eue/file/916824346871. [2565 เมษายน 3].
- IDA. (2564). International Dark Sky Week 2022.[Online]. Available : https://idsw.darksky.org/. [2565 เมษายน 3].
- new atlas. (2559). Philips and Vodafone partner for wireless city smart lighting.[Online]. Available : https://newatlas.com/philips-vodafone-wireless-connected-street-lighting/42296/. [2565 เมษายน 4].
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น