การหาตำแหน่งดาวด้วยมือของเราเอง

การดูดาวในยามค่ำคืน พื้นฐานเรื่อง "ทิศกับมุมต่าง ๆ" ยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรศึกษาให้เข้าใจ ซึ่งจะทำให้การดูดาวและการหาตำแหน่งดาวต่าง ๆ นั้นง่ายขึ้น

ที่มาของภาพ ปรับปรุงจาก (Christopher Witt .2562)

เนื้อหา
  • มุมทิศ (Azimuth)
  • มุมทิศและมุมเงย
  • การหามุมทิศและมุมเงยของดาว
  • การหาทิศเหนือในพื้นที่ดูดาว
  • การหาตำแหน่งดาวด้วยมือ
  • การคำนวณตำแหน่งดาว ด้วยสูตร 15°
  • สรุปท้ายเรือง

มุมทิศ (Azimuth)
เริ่มจากภาพด้านบน ขอให้ทำความเข้าใจมุมทิศ (Azimuth) บนพื้นดินที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราเสียก่อน มุมทิศรอบตัวเรามีทั้งหมด 360° หมุ่นตามเข็มนาฬิกา เริ่มต้นจาก
  • ทิศเหนือ (N) = 0°/360°
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (NE) = 45°
  • ทิศตะวันออก (E) = 90°
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (SE) = 135°
  • ทิศใต้ (S) = 180°
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (SW) = 225°
  • ทิศตะวันตก (W) = 270°
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (NW) = 315°
วิธีหาทิศง่าย ๆ หันหาไปทางทิศเหนือ
แขนขวา คือ ทิตะวันออก แขนซ้าย คือ ทิศตะวันตก
ด้านหลัง คือ ทิศใต้

มุมทิศและมุมเงย
การหาตำแหน่งดาวบนท้องฟ้า เราต้องใช้ มุมทิศ (Azimute) และมุมเงย (Altitude) ประกอบกัน (ดูภาพด้านล่าง) เช่น ตำแหน่งดาวดวงนี้ อยู่ที่มุมทิศ 300° มุมเงย 60° เป็นต้น มุมเงยจะมีค่าตั้งแต่  0°-90° เท่านั้น จุดที่อยู่เหนือหัวของเรา เรียกว่าจุดจอมฟ้า (Zenith)


การหามุมทิศและมุมเงยของดาว
การหามุมทิศและมุมเงย ของดาวที่เราต้องการดู ในสมัยก่อน (ก่อนที่จะมีแอปพลิเคชั่นดูดาว) เราจะหาจาก "แผนที่ดาว" (ตามภาพด้านล่าง) เมื่อเราหมุน วันที่และเดือน ตรงกับเวลาที่เราจะดู แล้วเราก็เลือกดาวที่เราจะดู เช่น หากเราดูดาวในวันที่ 9 ธ.ค.2566 เวลา 20:00 น. ตำแหน่งกลุ่มดาวนายพราน จะอยู่ที่มุมทิศ 90° และมุมเงย 30°
 
แผนที่ดาว สำหรับประเทศไทย ละติจูด 10-15-20 องศาเหนือ

แต่ในสมัยปัจจุบัน แผนที่ดาว ไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว เพราะมีแอปพลิเคชันดูดาวที่สามารถติดตั้งได้ในโทรศัพท์มือถือมาแทนที่  สะดวกและสามารถบอกมุมทิศและมุมเงยของดาวแต่ละดวงได้อย่างละเอียดเป็นเวลาจริง และสามารถส่องนำทางไปยังดาวดวงนั้น ๆ ได้ ในท้องฟ้าจริงที่ชมอยู่ในขณะนั้น 

แอปพลิเคชั่นดูดาว มาแทนที่แผนที่ดาว
ที่มาของภาพ (Trevor.2566)

การหาทิศเหนือในพื้นที่ดูดาว
เมื่อเราเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดูดาว สิ่งแแรกที่ควรทำคือ การหาทิศเหนือ วิธีการหาทิศเหนือมีหลายวิธี เช่น
  • หาด้วยเข็มทิศจริง ๆ  หรือเข็มทิศที่ติดอยู่กับขาตั้งกล้อง หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
  • หาด้วยแอปพลิเคชันเข็มทิศในโทรศัพท์มือถือ
  • หาด้วยแอปพลิเคชั่นดูดาว
  • หากไม่มีอุปกรณ์ที่กล่าวมา สามารถหาด้วยตำแหน่งของดาวเหนือ หรือดาวยอดนิยมต่าง ๆ ที่คุ้นเคยก็ได้
การหาดาวเหนือโดยอ้างอิงจาก กลุ่มดาวหมีใหญ่ กลุ่มดาวหมีเล็ก และกลุ่มดาวค้างคาว

การหาดาวเหนือ ในบางพื้นที่อาจจะหาลำบาก เพราะดาวเหนือไม่สว่างมากนัก และในประเทศไทยจะขึ้นสูงจากขอบฟ้าประมาณ 10°-15° หากท้องฟ้าไม่มืดหรือมีภูเขาสูงบดบังก็ไม่สามารถมองเห็นดาวเหนือได้

เมื่อเราได้ทิศเหนือแล้ว ก็จะรู้ทิศต่าง ๆ ตามมา ทำให้รู้แนวการโคจร การขึ้นและการตกของดวงดาว ช่วยทำให้การดูดาวง่ายขึ้น

การหาตำแหน่งดาวด้วยมือ
เมื่อเราทราบทิศรอบตัวเรา ทราบมุมทิศและมุมเงยของดาวที่เราต้องการดู เราสามารถใช้มือของเราวัดมุมหาตำแหน่งดวงดาวนั้น ๆ ได้เลย วิธีการวัดระยะเชิงมุมด้วยมือ เป็นไปตามภาพด้านล่าง


ยืดแขนตรงไปทางด้านที่ต้องการวัดระยะเชิงมุม ให้แขนตึง

การคำนวณตำแหน่งดาว ด้วยสูตร 15°
เพราะโลกเราหมุน ดังนั้นใน 1 ชม.ดาวจะเคลื่อนที่จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก 15°  ด้วยหลักการนี้เราสามารถคำนวณตำแหน่งของดาวอย่างง่าย ด้วยการวัดด้วยมือของเรานี่เอง ดังตัวอย่าง ต่อไปนี้ 

ภาพตัวอย่างที่ 1
ที่มาของภาพ (LESA.2553)

จากภาพตัวอย่างที่ 1 ขณะที่เรามองดวงอาทิตย์ตอนเวลา 09:00 น. หากเราก็ใช้มือของเราวัดมุม 15° (1 ชม.) ไปยังทิศตะวันตก จะได้ 9 ช่วง (9 ชม.) เราก็จะรู้ว่าดวงอาทิตย์จะตกตอนประมาณ 18:00 น. (9+9)

ภาพตัวอย่างที่ 2
ที่มาของภาพ (LESA.2553)

จากภาพตัวอย่างที่ 2 กลุ่มดาวนายพรานอยู่เหนือศรีษะเราเวลา 21:00 น. หากเราก็ใช้มือของเราวัดมุม 15° (1 ชม.) ไปยังทิศตะวันตก จะได้ 6 ช่วง (6 ชม.) เราก็จะรู้ว่ากลุ่มดาวนายพรานจะตกตอนประมาณ 03:00 น. (21+6) ของวันรุ่งขึ้น 

สรุปท้ายเรื่อง
การหาตำแหน่งดาวด้วยการวัดระยะเชิงมุมด้วยมือนั้น เป็นพื้นฐานเริ่มแรกของการดูดาวในสมัยก่อน มุมทิศและมุมเงยของตำแหน่งดาวแต่ละดวงล้วนได้มาจาก "แผนที่ดาว" ทั้งสิ้น แต่เดี๋ยวนี้ พวกเราใช้แอปพลิเคชันดูดาวแทนแล้ว ทำให้แผนที่ดาวดูจะขาดความจำเป็นลงไป 

แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ก็ยังมีความจำเป็นในการสอนอยู่ ในกรณีสอนให้นักเรียนหรือผู้ที่เริ่มดูดาวใหม่ ๆ ที่ยังใช้แอปพลิเคชันดูดาวไม่เป็น การใช้แผนที่ดาวและการวัดระยะเชิงมุมด้วยมือ จึงยังคงเป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับกลุ่มคนนี้อยู่ 

อย่าพึ่งทิ้งความรู้อันนี้ไปนะครับ

*********************************
โดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
7 ธ.ค.2566



ที่มาข้อมูล
  • นิพนธ์ ทรายเพชร. (2564). ทิศ. [Online]. Available : https://www.scimath.org/article-stem/item/12172-copy-2. [2566 ธันวาคม 7].
  • myhora. (2566). วิธีการวัดมุมดาวด้วยมือ. [Online]. Available : https://www.myhora.com/astronomy/planetary-positions.aspx. [2566 ธันวาคม 7].
  • Trevor. (2566). The 20 Best Astronomy Apps for Stargazing. [Online]. Available : https://astrobackyard.com/astronomy-apps-for-stargazing/. [2566 ธันวาคม 7].
  • Christopher Witt . (2562). Introduction to Stargazing. [Online]. Available : https://www.bhphotovideo.com/explora/outdoors/buying-guide/introduction-to-stargazing. [2566 ธันวาคม 7].
  • LESA. (2553). การคำนวณตำแหน่งดาวอย่างง่าย, ชุดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์. [Online]. Available : https://www.pw.ac.th/emedia/media/science/lesa/1/celestial_sphere/sky_math/sky_math.html. [2566 ธันวาคม 7].

ดาวอะไร?

ผมเจอภาพนี้ใน FB: ของ JWST, Hubble & Astronomical Discoveries ซึ่งโพสต์โดย Donnie Dania เมื่อ 21 พ.ย.2566  เป็นภาพที่น่าทึ่งมากครับ เลยลองแกะลอยดูว่า ใครเป็นคนถ่ายภาพนี้ และมันคือ ภาพถ่ายจากสถานที่จริงหรือเปล่า

ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2557)

ผลการค้นหาพบว่าภาพด้านบนนี้เป็น "ท้องฟ้ายามพลบค่ำบนดาวอังคาร" ซึ่งถ่ายโดย รถแลนด์โรเวอร์ Curiosity Mars ของ NASA  ซึ่งส่งลงไปสำรวจดาวอังคารเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 

นักวิจัยใช้กล้องตาซ้ายของ Mast Camera บนรถ Curiosity Mars rover เพื่อถ่ายภาพนี้ ประมาณ 80 นาทีหลังดวงอาทิตย์ตกดินบนดาวอังคารเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2557 โดยในภาพมีโลกอยู่ทางซ้ายเล็กน้อยจากศูนย์กลางภาพ และดวงจันทร์ลอยอยู่ใต้โลกพอดี 

รถแลนด์โรเวอร์ Curiosity Mars
ที่มาของภาพ (Mars Exploration.2566)

ภาพโลกของเรา มองจากดาวอังคาร
มองกันให้ชัด "จุดเล็ก ๆ นั้นคือ โลกของเรา" เมื่อมองจากดาวอังคาร ระยะห่างระหว่างโลกและดาวอังคารตอนที่ถ่ายภาพประมาณ 160 ล้านกิโลเมตร

ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2557)

มองให้ดีเห็นดวงจันทร์ด้วย
ลองขยายภาพมองดู จะเห็นดวงจันทร์คู่กับโลกด้วย 

ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2557)

ภาพดาวอังคารที่มองจากบ้านผม
ในภาพถ่ายด้านล่าง ด้านใต้จากศูนย์กลางภาพ จะเห็นดาวสว่างดวงบนสุดคือ ดาวอังคาร  ใต้ลงมาคือ ดาวหัวใจสิงห์ (Regulus) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวสิงโต (Leo) (ดวงกลาง) และดาวสว่างที่สุดใกล้หลังคาตึก คือ ดาวศุกร์ (ดวงล่างสุด) คืนนั้น ดาวทั้งสามดวงเรียงตัวกันในแนวดิ่ง ภาพนี้ผมถ่ายเองจากท้องฟ้าหลังบ้านที่เมืองราชบุรี


ต่างคนต่างมอง
ดาวอังคารที่เราเห็นจากโลกก็เป็นจุดเล็ก ๆ และโลกของเราที่มองจากดาวอังคารก็เป็นจุดเล็ก ๆ เช่นกัน เป็นแค่จุดเล็ก ๆ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ ต่างคนต่างมอง แต่ต่างกันตรงที่ว่าบนดาวอังคารนั้น

"ไม่มีมนุษย์ที่ทรนงว่ามีสติปัญญาอย่างเรา ไม่มีมนุษย์ที่กำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเอง  ไม่มีมนุษย์ที่กำลังทำลายโลกอันสวยงามของเขาเองด้วยมลพิษต่าง ๆ อย่างเห็นแก่ตัว"

แท้ที่จริงแล้ว มนุษย์แค่อาศัยอยู่บนดาวดวงเล็ก ๆ ของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่แทบไม่มีใครให้ความสนใจ 

เราเป็นเผ่าพันธ์ที่ทรงภูมิปัญญาแล้วจริงหรือ ?? หรือเราเป็นเพียงแค่มดตัวเล็กๆ ที่อยู่ในรัง

*********************************
รวบรวมและเรียบเรียง โดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
3 ธ.ค.2566




ที่มาข้อมูล
  • Jet Propulsion Laboratory. (2557). Bright 'Evening Star' Seen from Mars is Earth. [Online]. Available : https://www.jpl.nasa.gov/images/pia17936-bright-evening-star-seen-from-mars-is-earth. [2566 ธันวาคม 3].
  • Global climate  change. (2557). Earth from Mars. [Online]. Available : https://climate.nasa.gov/climate_resources/89/earth-from-mars/. [2566 ธันวาคม 3].
  • Mars Exploration. (2566). Mars Curiosity Rover. [Online]. Available : https://mars.nasa.gov/msl/home/. [2566 ธันวาคม 3].

คืนนี้..เปลี่ยนที่นอน ดูฝนดาวตก "เจมินิดส์" 150 ดวงต่อชั่วโมง

ฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือฝนดาวตกดาวคนคู่ เป็นฝนดาวตกประจำปีที่น่าชมที่สุด ปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีอุกกาบาตพุ่งผ่านมายังชั้นบรรยากาศโลกของเรามากถึง 150 ดวง/ชั่วโมง คืนนี้ งดดูละครเกมโชว์ ทีวีซีรีย์ดัง เปลี่ยนที่นอน ออกไปนอนดูฝนดาวตกกันสักคืนครับ

ที่มาของภาพ
ปรับปรุงจาก (Aristos Georgiou.2566)

ฝนดาวตกเจมินิดส์
  • ต้นกำเนิด : สายธารของเศษหินและฝุ่นของดาวเคราะห์ 3200 เฟธอน 
  • จุดศูนย์กลาง : กลุ่มดาวคนคู่ (Constellation Gemini) หรือกลุ่มดาวราศีเมถุน
  • ระยะเวลาการเกิด :19 พ.ย.-24 ธ.ค.2566
  • อัตราการตกสูงสุด : 14 ธ.ค.2566 ประมาณ 120-150 ดวงต่อชั่วโมง
  • ความเร็ว : 35 กิโลเมตรต่อวินาที
ภาพท้องฟ้าจำลอง คืนวันที่ 14 ธ.ค.2566 

ฝนดาวตกเจมินิดส์ เป็นฝนดาวตกขนาดใหญ่ในรอบปี  มีความสว่างมาก หางยาว และมีหลากหลาย สี ส่วนใหญ่เป็นสีขาว สีเหลืองบางส่วน และสีแดง สีน้ำเงินเล็กน้อย และสีเขียว 

ฝนดาวตกเจมินิดส์เป็นฝนดาวตกที่ไม่ได้เกิดจากดาวหาง แต่เกิดจากดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน ซึ่งเป็นหินอวกาศขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 กิโลเมตร วงโคจรของเฟธอนนั้นยาวมาก โคจรรอบดวงอาทิตย์ 1.4 ปี และทิ้งเศษซากไว้เบื้องหลัง คล้ายกับดาวหาง   แต่มันไม่มีหางของฝุ่นหรือก๊าซแบบดาวหาง มันจึงไม่ถือว่าเป็นดาวหาง บางทีนักดาราศาสตร์ก็เรียกเขาว่า ดาวเคราะห์น้อยลูกผสม หรือดาวหางหิน (The Rocket comet)

ที่มาของภาพ (Vito Technology, Inc.2566)

มองกว้าง ๆ ทั้งท้องฟ้า
การชมฝนดาวตกเป็นการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ง่ายที่สุดและลงทุนน้อยที่สุด เพียงใช้ตาเปล่ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า มองให้กว้าง ๆ ไม่ต้องเพ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่ง ดาวตกจะเกิดขึ้นได้เกือบทั่วทั้งท้องฟ้า ยกเว้นบริเวณที่อยู่ตรงข้ามกับจุดศูนย์กลางของดาวตก

นอนดูเลย
การแหงนหน้าชมฝนดาวตกเป็นเวลานาน ๆ ในลักษณะการยืนหรือนั่งดูจะเมื่อยคอมาก  จึงขอแนะนำว่าควรจะใช้เก้าอี้เอนนอน หรือปูเสื่อนอนดูเลย ถือเป็นวิธีการดูที่เหมาะสมที่สุด  

หาที่ท้องฟ้ามืด ๆ ไม่มีแสงเมืองรบกวน นอนชมฝนดาวตกกันนะครับ วันพฤหัสบดีที่ 14 ธ.ค.2566 กลุ่มดาวคนคู่เริ่มขึ้นพ้นขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 20:00 น.เป็นต้นไป คืนนี้ไม่มีแสงจัันทร์รบกวน เพราะดวงจันทร์ตกไปแล้วตั้งแต่เวลา 19:11 น. ยิ่งดึกก็ยิ่งมองเห็นดาวตกได้ชัดขึ้น มองเห็นได้จนกระทั่งรุ่งเช้า

*********************************
รวบรวม และเรียบเรียง โดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
2 ธ.ค.2566


ที่มาข้อมูล
  • NASA Science. (2566). Geminids. [Online]. Available : https://science.nasa.gov/solar-system/meteors-meteorites/geminids/. [2566 ธันวาคม 23].
  • Vito Technology, Inc. (2566). The Geminid Meteor Shower 2023: Where & When to See. [Online]. Available : https://starwalk.space/en/news/geminid-meteor-shower. [2566 ธันวาคม 3].
  • Aristos Georgiou. (2566). Eta Aquariids Meteor Shower 2022: When and Where To Watch May's Cosmic Show. [Online]. Available : https://www.newsweek.com/eta-aquariids-meteor-shower-2022-watch-may-cosmic-show-1703339. [2566 ธันวาคม 3].

มีอะไรให้ชมบ้าง : ไกด์นำชมดาว 9 ธันวาคม 2566 @ สวนผึ้ง

ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี ได้จัดกิจกรรม "ชมทะเลดาวและทางช้างเผือก ครั้งที่ 2" ในวันที่ 9 ธ.ค.2566 ณ The Bee Camping อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในคืนนั้นมีอะไรให้ชมกันบ้าง ลองอ่านดูกันนะครับ


กำหนดเวลาทางดาราศาสตร์ที่สำคัญ
  • ดวงอาทิตย์ตก เวลา 17:51 น.
  • แสงสนธยาช่วงเย็น เวลา 17:51-19:05 น.
  • คืนนี้ ไม่มีแสงดวงจันทร์รบกวนในการดูดาว ดวงจันทร์จะไปขึ้นในรุ่งเช้าของวันที่ 10 ธ.ค.2566 (แรม 13 ค่ำ ความสว่าง 9%) เวลา 03:48 น.
  • แสงสนธยาช่วงเช้า เวลา 05:05-06:18 น.
  • ดวงอาทิตย์ขึ้น เวลา 06:18 น.
ดาวฤกษ์สว่าง 25 ดวงบนท้องฟ้า
กลุ่มดาวยอดนิยม
ด้านทิศตะวันออก
  • ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) สว่างโดดเด่นอยู่กลางฟ้า
  • กลุ่มดาวนายพราน (Orion) จะเห็นดาวสามดวงเรียงกัน เรียกว่า เข็มขัดนายพราน (Orion's Belt) ในกลุ่มดาวนี้ จะมีดาวสว่างคือ ดาวไรเจล (Rigel) และดาวเบเทลจุส (Betelgeuse) และมี DSO ได้แก่ เนบิวลานายพราน (The Great Orion Nebula), เนบิวลาหัวม้า (Horsehead) และเนบิวลาเปลวเพลิง (Flame Nebula)
  • กลุ่มดาววัว (Taurus) หรือกลุ่มดาวราศีพฤษภ จะเห็นดาวเรียงกันเป็นรูปตัววี มีดาวสว่างคือ ดาวอัลเดบารัน (ดาวตาวัว) ส่วน DSO ก็คือ กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades star cluster), กระจุกดาวสามเหลี่ยมหน้าวัว (Hyades star cluster)
  • กลุ่มดาวสารถี (Auriga) ดาวสว่างคือ ดาวคาเพลลา (Capella)  
  • กลุ่มดาวหมาใหญ่ (Canis Major) ดาวสว่างคือ ดาวซิริอุส (Sirius) หรือดาวโจร เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้า รองจากดวงอาทิตย์
  • กลุ่มดาวหมาเล็ก (Canis Minor) ดาวสว่างคือ ดาวโพรซิออน (Procyon)
  • กลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) มีดาวสว่างฝาแฝดคือ ดาวพอลลักซ์ (Pollux) และดาวคาสเตอร์ (Castor)
  • สามเหลี่ยมฤดูหนาว คือ เส้นสมมติระหว่าง ดาวซิริอุส ↔ ดาวเบเทลจุส  ↔ ดาวโพรซิออน
  • หกเหลี่ยมฤดูหนาว คือ เส้นสมมติระหว่าง ดาวซิริอุส ↔ ดาวโพรซิออน ↔ ดาวพอลลักซ์ ↔ ดาวคาเพลลา ↔ ดาวอัลเดบารัน ↔ ดาวไรเจล

ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
  • กลุ่มดาวแอนโดรเมดา (Andromeda) ดาวสว่างคือ ดาวไมรา (Mirach) มี DSO คือ กาแล็กซีแอนโดรเมดา และตรงปลายเท้าเจ้าหญิงคือ กาแล็คซี NGC 891 
  • กลุ่มดาวเพอร์ซิอัส (Perseus) ดาวสว่างคือ ดาวอัลฟาเพอร์เซย์ (Mirfak) ดาวที่น่าสังเกตคือ ดาวปีศาจ (Algol) ดาวปีศาจนี้ เปรียบเป็นดวงตาของเมดูซ่า
  • กลุ่มดาวสามเหลี่ยม (Triangulum) มี DSO คือ กาแล็กซีสามเหลี่ยม (Triangulum galaxy)
  • กลุ่มดาวแกะ (Aries) หรือ กลุ่มดาวราศีเมษ
ด้านทิศเหนือ
  • กลุ่มดาวแคสซิโอเปีย (Cassiopeia) หรือกลุ่มดาวค้างคาว คล้ายอักษรภาษาอังกฤษ ตัว M หรือ W จะมี DSO ได้แก่ เนบิวลาหัวใจ (Heart Nebula) บริเวณปลายปีกค้างคาว
  • ดาวเหนือ (Polaris) เป็นดาวที่ไม่ขึ้นไม่ตก นิ่งอยู่กับที่ ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ตำแหน่งดาวเหนือจะสูงเหนือขอบฟ้าประมาณ 13°
  • กลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) หรือดาวจระเข้ หรือดาวกระบวย จะหมุนรอบดาวเหนือ จะขึ้นเต็มตัวเวลา 02:20 น.ของวันรุ่งขึ้น
  • กลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor) หมุนรอบดาวเหนือ ปลายหางหมีคือดาวเหนือ  จะขึ้นเต็มตัวเวลา 02:30 น. ของวันรุ่งขึ้น
ด้านระหว่างทิศเหนือถึงทิศตะวันตก
  • กลุ่มดาวนกอินทรี (Aquila) ดาวสว่างคือ ดาวอัลแทร์ (Altair) หรือดาวตากนกอินทรี จะมี DSO เนบิวลาดัมบ์เบลล์ (Dumbbell Nebula) อยู่ระหว่างหัวนกอินทรี กับหัวหงส์
  • กลุ่มดาวพิณ (Lyra) ดาวสว่างคือ ดาวเวกา (Vega) และจะมี DSO คือ เนบิวลาวงแหวน (Ring Nebula) ในกลุ่มดาวนี้ 
  • กลุ่มดาวหงส์ (Cygnus) ดาวสว่างคือ ดาวเดเนบ (Deneb) หรือ ดาวหางหงส์  ตัวหงส์ คือ แนวทางช้างเผือก จะพาดผ่านตรงกลางระหว่างดาวเวกา และดาวอัลแทร์
  • สามเหลี่ยมฤดูร้อน คือ เส้นสมมติระหว่าง ดาวเวกา ↔ ดาวเดเนบ ↔ ดาวอัลแทร์ 
ด้านทิศใต้
  • กลุ่มดาวแม่น้ำ (Eridanus) จะมีดาวสว่างคือ ดาวอะเคอร์น่า (Achernar) อยู่ในตำแหน่งปากแม่น้ำ แม่น้ำจะคดเคี้ยวไปยังต้นแม่น้ำ ซึ่งอยู่บริเวณดาวไรเจลในกลุ่มดาวนายพราน
  • กลุ่มดาวท้ายเรือ (Puppis) จะมีดาวสว่างคือ ดาวคาโนปัส (Canopus)
  • ดาวเสาร์ (Saturn) จะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ขอให้ท่านผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 9 ธ.ค.2566 อ่านให้ผ่านตาไว้ก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานในการดูดาว อาจจะงงกับทิศทาง กลุ่มดาว ชื่อดาว หรือ DSO  ต่าง ๆ ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยววันจริงจะเข้าใจง่ายขึ้น และหากท่านใดติดตั้งแอปพลิเคชันดูดาวแล้ว ก็ลองจำลองภาพท้องฟ้าคืนวันนั้น ดูได้เลย  

อ่านเพิ่มเติม

พวกเธออยู่ที่ไหน?

ยาน Voyager1 และ 2 ยานอวกาศไร้คนขับของ NASA ออกเดินทางจากโลกของเรา ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2520 เธอบินจากเราไป 46 ปีแล้ว ตอนนี้ เธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่  หากมีพวกเธออยู่ที่ไหนกัน


เวลาเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับความกว้างใหญ่ไพศาลของจักรวาล ความลึกลับ ความมหัศจรรย์ ความไร้ขอบเขต การดำรงอยู่ของดวงดาวนับแสนนับล้านดวง อีกทั้งกาแล็กซี เนบิวลา ที่นับไม่ก้วน 

เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์ยานอวกาศไร้คนขับขึ้นหลายลำ แล้วส่งพวกเขาขึ้นไปสำรวจดาวเคราะห์และวัตถุต่าง ๆ ในระบบสุริยะของเรา บ้างลำก็สูญหายไปแล้ว บางลำก็กำลังเดินทางสำรวจอยู่ และมี 2 ลำ ที่กำลังเดินทางไปไกลมากถึงสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็คือ ยานฝาแฝด  Voyager1 และ 2 ที่ไปได้ไกลกว่าเพื่อน ๆ และพวกเธอยังส่งสัญญาณวิทยุกลับมาให้นักวิทยาศาสตร์บนโลกอย่างต่อเนื่อง

พ้นขอบระบบสุริยะ
ผมอยากรู้เรื่องราวของ Voyager ก็เลยเข้าไปอ่านเว็บไซต์ของ The Jet Propulsion Laboratory ซึ่งเป็นผู้ควบคุมโครงการ Voyager จึงทราบว่าตอนนี้ ยานฝาแฝด  Voyager1 และ 2 เดินทางพ้นขอบระบบสุริยะของเราที่เกิดจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) แล้วและกำลังเดินทางเข้าสู่ พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) ซึ่งนับว่าไกลที่สุด เท่าที่มนุษย์เคยทำได้

ยาน Voyager1 ข้ามขอบเขตของเฮลิโอสเฟียร์และเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาวในปี พ.ศ. 2555 ตามมาด้วยยาน Voyager2 ซึ๋งเดินทางช้าลงและไปในทิศทางที่ต่างออกไป ข้ามขอบเขตของเฮลิโอสเฟียร์และเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว ในปี พ.ศ. 2561 

ยาน Voyager 1 และ 2 เดินทางพ้นขอบเขตของเฮลิโอสเฟียร์และเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว

การสำรวจจักรวาลเพิ่งเริ่มต้น
อ่านข่าวนาย Edward Stone เกษียณ หลังจากทำงานในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ของโครงการ NASA Voyager มา 50 ปี ทำให้เข้าใจว่า การส่งยานอวกาศเพื่อเดินทางไปสำรวจจักรวาล ในแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลายาวนานมากกว่าครึ่งศตวรรษของมนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียว ทำตั้งแต่หนุ่มจนแก่ แต่ยานอวกาศที่สร้างขึ้น ก็พึ่งเดินทางไปได้แค่พ้นขอบระบบสุริยะของเราเท่านั้นเอง  แต่ก็ถือว่า การเดินทางของ Voyager1 และ 2 เป็นก้าวแรกของการสำรวจจักรวาลที่แท้จริงของมวลมนุษย์ชาติ  มันพึ่งเริ่มต้น 

เอ็ด สโตน คนที่ 2 จากซ้าย และสมาชิกคนอื่นๆ ของทีม Voyager
โพสท่ากับแบบจำลองยานอวกาศ Voyager ในปี พ.ศ.2520 ซึ่งเป็นปีที่ปล่อยยาน

ถ้าเทียบวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยปี พ.ศ.2520 กับสมัยนี้แทบจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ในปีนั้น ผมยังต้องเขียนจดหมายแล้วส่งทางไปรษณีย์อยู่เลย แต่นักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้นสุดยอดมาก ๆ ที่สามารถประดิษฐ์ยานอวกาศไร้คนขับส่งขึ้นไปสำรวจจักรวาลได้ และยังคงเดินทางสำรวจอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

พวกเธออยู่ที่ไหน
ในแอปพลิเคชั่น Eye on The Solar system ของ NASA  ใน "Voyager Grand Tour 1977-Today" รายงานเป็น real time ว่าขณะนี้ ฝาแฝดทั้ง 2 อยู่ตรงไหนแล้วในจักรวาล (ตามภาพด้านล่าง)

ตำแหน่งของ Voyager1 และ 2
Pioneer10 และ 11 สูญหายไปแล้ว
เมื่อ 24 พ.ย.2566 เวลา 14:18:08 น.
ที่มาของภาพ  (NASA.2566)

ตำแหน่ง Voyager1
ยาน Voyager1 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03:38 น. อยู่ตำแหน่งตามภาพด้านล่างนี้ ลองจินตนาการดูนะครับ ตอนนี้อยู่ในพื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) พ้นขอบระบบสุริยะของเราที่เกิดจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) ไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2555 (11 ปีมาแล้ว)
  • ระยะห่างจากโลก 15,113,963,XXX ไมล์ (162.593XXXXX AU)
  • ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ 15,041,924,XXX ไมล์ (161.818XXXXX AU)
  • คามเร็วเดินทาง 38,026.77 ไมล์/ชม.
  • ระยะห่างความเร็วแสง 22 ชม.32 นาที 14 วินาที
ตำแหน่ง Voyager 1  เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2566
ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2566)

ตำแหน่ง Voyager 2
ยาน Voyager 2 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03:37 น. อยู่ตำแหน่งตามภาพด้านลางนี้ ลองจินตนาการดูนะครับ ตอนนี้อยู่ในพื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) พ้นขอบระบบสุริยะของเราที่เกิดจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) ไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2561 (5 ปีมาแล้ว)
  • ระยะห่างจากโลก 12,598,045,XXX ไมล์  (135.527XXXXX AU)
  • ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ 12,551,936,XXX ไมล์ (135.031XXXXX AU)
  • ความเร็วเดินทาง 34,390.98 ไมล์/ชม.
  • ระยะห่างความเร็วแสง 18 ชม.47 นาที 08 วินาที

ตำแหน่ง Voyager 2  เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2566
ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2566)

เธอทำอะไรมาบ้าง 
ยาน Voyager1 และ 2 ได้สำรวจดาวเคราะห์ยักษ์ทั้งหมดของระบบสุริยะชั้นนอกของเรา ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ดวงจันทร์ 48 ดวง และระบบวงแหวนและสนามแม่เหล็กอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวเคราะห์เหล่านั้น
  • ยานเข้าใกล้ดาวพฤหัสบดีที่สุด เมื่อ 5 มีนาคม 2522 (Voyager1) และ 9 กรกฎาคม 2522 (Voyager2)
  • ยานเข้าใกล้ดาวเสาร์ที่สุุด เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2523 (Voyager1) และ 25 สิงหาคม พ.ศ.2524 (Voyager2)
  • ยานเข้าใกล้ดาวยูเรนัสที่สุด วันที่ 24 มกราคม 2529 (Voyager2)
  • ยานเข้าใกล้ดาวเนปจูนที่สุด วันที่ 25 สิงหาคม 2532 (Voyager2)
ภาพถ่ายอันโด่งดังของ Voyager1
Pale Blue Dot เป็นภาพถ่ายโลกของเราที่ถ่ายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2533 โดยยาน Voyager1 ที่ระยะห่าง 3.7 พันล้านไมล์ (6 พันล้านกิโลเมตร) จากดวงอาทิตย์ ภาพดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้ คาร์ล เซแกน นักดาราศาสตร์ในโครงการสำคัญของ NASA ใช้ชื่อหนังสือของเขาว่า "Pale Blue Dot: A Vision of the Human Future in Space" โดยเขาเขียนบรรยายว่า "Look again at that dot. That's here. That's home. That's us." (มองดูจุดนั้นอีกครั้ง นั่นคือที่นี่ นั่นคือบ้าน นั่นคือพวกเรา)

Pale Blue Dot  เป็นภาพถ่ายโลก
ถ่ายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2533 โดยยาน Voyager1 
ที่มาของภาพ (NASA/JPL-Caltech. 2566).

แล้วเธอจะไปไหน
  • ยาน Voyager1 เดินทางมุ่งหน้าไปยัง กลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus) และกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor)
  • ยาน Voyager2 เดินทางมุ่งหน้าไปยัง กลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius)  กลุ่มดาวนกยูง (Pavo) และดาวฤกษ์ ชื่อ รอสส์ 248 ซึ่งเป็นดาวดวงเล็กใน กลุ่มดาวแอนโดรเมดา (Andromeda)
เธอจะหมดลมหายใจเมื่อไหร่
เดิมวิศวกรของ NASA ออกแบบ Voyager ให้ทำงานได้ 4 ปี แต่ถึงปัจจุบันเธอก็ทำงานมาถึง 46 ปีแล้ว และเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่บินไปไกลจากโลกมากที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยทำได้ ก็ภาวนาให้ทีมวิศวกรของ NASA จะสามารถต่ออายุเธอได้ และขอสวดภาวนาให้เธอเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางให้จงได้ ถึงแม้เวลานั้น  พวกเราจะไม่ได้อยู่ชื่นชมความสำเร็จของเธอแล้วก็ได้ 

ถ้าเป็นคน เธอคงอ่อนล้ามาก กับการเดินทางที่โดดเดี่ยวมายาวนานถึง 46 ปี ต้องผจญกับอุปสรรคต่าง ๆ แต่โดยลำพังในจักรวาลอันมืดมิด เมื่อใดที่เธอหายไป และไม่ติดต่อกลับมา ก็ขอให้ทราบว่า พวกเราขอขอบคุณ และขอสดุดีวีรกรรมของเธอที่ทำให้แก่โลกของเรา ไว้ชั่วนิรันดร์

*********************************
รวบรวม และเรียบเรียง โดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
23 พ.ย.2566

ที่มาข้อมูล
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Voyager. [Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Calla Cofield. (2565). Edward Stone Retires After 50 Years as NASA Voyager's Project ScientistJet Propulsion Laboratory. [Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/news/details.php?article_id=127. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Mission Status[Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/mission/status/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Fast Facts[Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/frequently-asked-questions/fast-facts/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Frequently Asked Questions[Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/frequently-asked-questions/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • NASA/JPL-Caltech. (2566). Voyager 1’s Pale Blue Dots[Online]. Available : https://science.nasa.gov/resource/voyager-1s-pale-blue-dot/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • NASA. (2566). Eye on The Solar system[Online]. Available : https://eyes.nasa.gov/apps/solar-system/#/home. [2566 พฤศจิกายน 24].

นักถ่ายดาวแบบมินิมอล ใคร ๆ ก็เป็นได้

มินิมอล (Minimal) มีความหมายว่า น้อยที่สุด หรือขั้นต่ำสุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าเราสามารถนำหลักการนี้ มาใช้กับการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ซึ่งมีต้นทุนสูง ก็จะทำให้หลายคนสามารถลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่าย รู้จักใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ต้องพะวงกับราคาค่าอุปกรณ์ที่แสนแพง ซึ่งจะทำให้มีความสุขและเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ได้อย่างเต็มที่   


วัตถุบนท้องฟ้าในการถ่ายภาพ
วัตถุบนท้องฟ้าทางดาราศาสตร์ที่ปรากฏให้เราเห็นมีหลายชนิด การถ่ายภาพแต่ละชนิดก็มีวิธีการ รูปแบบ ความสนุกสนาน และความท้าทายที่แตกต่างกันไป  การถ่ายภาพวัตถุทางดาราศาสตร์ช่วยทำให้เราเพลิดเพลิน ตื่นเต้น และรู้สึกภาคภูมิใจที่เราสามารถถ่ายภาพพวกเขาได้ แถมยังได้เห็นความงดงาม ความลึกลับ และความมหัศจรรย์ของจักรวาลอีกด้วย  วัตถุบนท้องฟ้าที่นิยมถ่ายภาพกัน อาจจัดกลุ่มได้ ดังนี้
  • การถ่ายภาพวัตถุท้องฟ้าในห้วงอวกาศลึก (Deep Sky Objects) เป็นการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่นอกระบบสุริยะของเรา เช่น กาแล็กซี เนบิวลา และกระจุกดาว วัตถุเหล่านี้ อาจอยู่ห่างจากเราหลายร้อยล้านปีแสง จึงเป็นเรื่องยากที่จะถ่ายภาพพวกเขา การถ่ายภาพชนิดนี้ต้องมีอุปกรณ์พิเศษหลายอย่าง
  • การถ่ายภาพดาวเคราะห์ (Planetary) เป็นการถ่ายภาพดาวเคราะห์ต่าง ๆ เช่น ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวอังคาร และดาวศุกร์ ที่อยู่ในระบบสุริยะของเรา
  • การถ่ายภาพดาวและกลุ่มดาว (Stars and constellations)  เป็นการถ่ายภาพดาวฤกษ์ และกลุ่มดาวต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า นอกระบบสุริยะของเรา
  • การถ่ายภาพดวงอาทิตย์ (Solar) เป็นการถ่ายภาพดวงอาทิตย์และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของดวงอาทิตย์ เช่น จุดดับบนดวงอาทิตย์ ความโดดเด่น และเปลวสุริยะ เป็นต้น
  • การถ่ายภาพดวงจันทร์ (Lunar) เป็นการถ่ายภาพดวงจันทร์ ข้างขึ้น ข้างแรม รวมถึงลักษณะภูมิประเทศต่าง ๆ เช่น ปล่องภูเขาไฟ ภูเขา และหุบเขา 
  • การถ่ายภาพทางช้างเผือก (Milky Way) 
  • การถ่ายภาพดาวหางและฝนดาวตก (Comet and meteor shower) 
  • ฯลฯ
การถ่ายแบบ Prime Focus 
ที่มาของภาพ (Hermanus Astronomy.2566)

เทคนิคการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ 
เทนิคการถ่ายภาพวัตถุต่าง ๆ ทางดาราศาสตร์ จะมีวิธีการ เทคนิค  เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดวัตถุบนท้องฟ้านั้น ๆ และลักษณะของภาพที่ต้องการ เทคนิคการถ่ายที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน มีหลายเทคนิค อาทิ
  • การถ่ายทิวทัศน์กลางคืนมุมกว้าง (Wide-Angle Night-Scapes) คือ การใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของทรงกลมท้องฟ้า
  • การถ่ายแบบ Prime Focus  คือ การติดกล้องเข้ากับกล้องโทรทรรศน์โดยตรง 
  • การถ่ายแบบ Star-Tracker Night-Scapes คือ การถ่ายทิวทัศน์กลางคืนโดยใช้อุปกรณ์ตามดาว
  • การถ่ายแบบ Piggyback  คือ การติดตั้งกล้องถ่ายบนหลังกล้องโทรทรรศน์
  • การถ่ายแบบเจาะลึกทางช้างเผือก (Star-Tracker Milky Way Close-Ups)
  • การถ่ายแบบ Afocal คือ ใช้กล้องถ่าย ถ่ายไปที่เลนส์ใกล้ตาของกล้องโทรทรรศน์
  • การถ่ายทิวทัศน์กลางคืนแบบพานอรามา (Night-Scape Panoramas)
  • การถ่าย Landscape คือ การถ่ายภาพผสมระหว่าง Foregroud และ Sky ให้กลมกลืนและสวยงาม 
  • การถ่ายแบบ Timelapse คือการถ่ายภาพหลายภาพในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วนำมารวมกันเพื่อสร้างเป็นวิดีโอหรือภาพนิ่ง 
  • ฯลฯ
การถ่ายแบบ Afocal
ที่มาของภาพ (Wikipedia. 2566)

การถ่ายภาพแบบ Piggyback 

การถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล
เทคนิคการถ่ายภาพดาราศาสตร์แต่ละรูปแบบ จะมีการใช้กล้อง อุปกรณ์ และเครื่องมือ ที่แตกต่างกัน ต้นทุนค่าใช้จ่ายในบางเทคนิคจะมีราคาสูงมาก โดยเฉพาะตัวกล้องและอุปกรณ์ต่อพ่วง หากนักถ่ายภาพมีทักษะประสบการณ์และรู้จักการประยุกต์ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็จะช่วยลดต้นทุนในการถ่ายภาพให้ต่ำลง หรือ น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การถ่ายภาพวัตถุบนท้องฟ้าที่ง่ายและประหยัดที่สุด คือ การถ่ายภาพทิวทัศน์ดาวฤกษ์ กลุ่มดาว และดาวเคราะห์ ซึ่งผมขอเรียกว่า "การถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล" เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น (Beginner) หรือมือใหม่ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า "ดูดาวได้ ถ่ายภาพเป็น" โดยมีหลักในการถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล 6 ประการ ได้แก่
  1. ใข้โทรศัพท์มือถือของคุณเอง เพราะทุกคนมีอยู่แล้ว ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือของตนเองในการถ่ายดาว พยายามหัดใช้ทุกฟังก์ชั่นให้เป็นและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะโหมดการตั้งค่าถ่ายภาพเอง (Pro/Manual)
  2. ใช้ขาตั้งกล้อง  ขาตั้งกล้องมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการสั่นไหวของกล้อง ซื้อขาตั้งกล้องเป็นของตัวเองสักอัน (เดี๋ยวนี้มีขายทั่วไปตามร้านโทรศัพท์ ทางออนไลน์ก็มี ราคาไม่แพง) ไปไหนให้นำติดตัว ติดรถไปด้วย พร้อมใช้งานได้เสมอ
  3. ใช้แอปพลิเคชันดูดาว ยอมเสียเงินติดตั้งแอปพลิเคชันดูดาวที่ดีดีสักแอปฯ ลงในโทรศัพท์มือถือ เช่น Star Walk 2, Sky Tonight, Sky Safari 7 ฯลฯ แล้วใช้ให้เป็น เมื่อมีเวลาว่างลองเปิดดู "ท้องฟ้าจำลอง" ในแอปฯ  หัดดูชื่อดาว หัดดูกลุ่มดาว หัดดูว่าในแต่ละคืนจะมีดาวหรือวัตถุใดที่จะขึ้นให้เราเห็นบ้าง  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ ออกมาดูดาวในท้องฟ้าจริง ๆ ในยามค่ำคืน
  4. ใช้แอปพลิเคชันแต่งภาพ ยอมเสียเงินติดตั้งแอปพลิเคชันแต่งภาพดีดีสักแอปฯ  ลงในโทรศัพท์มือถือ เช่น Photoshop Express Photo Editor (Ps), Lightroom Photo & Video Editor (Lr) ฯลฯ เอาไว้แต่งภาพดาวที่เราถ่ายมา หรือใข้แต่งภาพถ่ายอื่น ๆ ของเราก็ได้ ฝึกใช้ให้คล่อง ลองผิดลองดู เดี๋ยวก็จะเข้าใจเอง 
  5. หมั่นหาความรู้ หมั่นศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ ทางเว็บไซต์หรือโซเซียลมีเดียทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ดาษดื่นในโลกออนไลน์ หัดดูภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ที่คนอื่น ๆ ถ่ายแล้วโพสต์ไว้ว่าเขามีเทคนิคการตั้งค่าการถ่ายภาพอย่างไร เขาวาง Landscape อย่างไร แล้วจำมาประยุกต์ในการถ่ายของเราเอง 
  6. หมั่นฝึกทักษะและประสบการณ์ ทุกครั้งเมื่อมีเวลาหลังดวงอาทิตย์ตกดินไปแล้ว จงเดินออกไปนอกบ้าน และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อเห็นดาวก็เริ่มตั้งกล้องถ่ายภาพได้เลย ฝึกถ่ายบ่อย ๆ สวยบ้างไม่สวยบ้าง ไม่เป็นไร เพราะมันจะทำให้เราได้ทักษะ พอเรามีทักษะมากขึ้นก็จะกลายเป็นประสบการณ์ที่สั่งสมอยู่ในตัวของเราเอง  
ท้องฟ้าเมืองราชบุรี Class6 ยังพอมองเห็นดาวต่าง ๆ ได้
นักถ่ายดาวแบบมินิมอล
การถ่ายดาวด้วยมือถือ ไม่ยุ่งยาก ใคร ๆ ก็ถ่ายได้ แถมถ่ายได้ทุกคืน แม้แต่ในเมืองที่มีแสงสว่างเรืองขึ้นท้องฟ้ามาก ๆ ก็ยังพอมองเห็นดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ที่สว่าง ๆ ปรากฏให้เห็นอยู่ อย่างเช่นท้องฟ้าเมืองราชบุรี บ้านผมเอง (ค่าความมืดของท้องฟ้า Class 6) ก็ยังพอมองเห็นกลุ่มดาวได้ (ภาพด้านบน) ยกเว้น เมื่อเวลามีเมฆและมีฝนตกเท่านั้น ที่จะเป็นอุปสรรคในการถ่ายดาว 

ค่าความสว่างของท้องฟ้า

หมั่นออกมาที่ระเบียงหรือสนามหน้าบ้าน ตั้งกล้องและลงมือถ่าย นำภาพที่ถ่ายได้มาศึกษาเรียนรู้ และลองแต่งภาพดู แค่นี้ ก็ถือว่า เป็น "นักถ่ายดาวแบบมินิมอล" แล้ว ไม่ใช่ "นักถ่ายภาพดาวมือใหม่" อีกต่อไป พอถึงวันหยุดพักผ่อน ค่อยไปหาสถานที่ที่ท้องฟ้ามืด ๆ ตั้งกล้องถ่ายดาวกันต่อไป

การถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล

นักถ่ายดาวแบบมินิมอล แทบไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ราคาแพงอะไรเลย เพราะทุกอย่างมีใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องใช้ให้เป็น ตั้งแต่การตั้งค่าการถ่าย การแต่งภาพ จนถึงการโพสต์ภาพดาวสวย ๆ ลงในโซเซียล คุณสามารถทำได้ในโทรศัพท์มือถือของคุณเพียงเครื่องเดียว กับขาตั้งกล้องอีกหนึ่งอัน

*********************************
เขียนโดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
22 พ.ย.2566


ที่มาข้อมูล
  • Karl Perera MA. (2566). Types of astrophotography that will amaze youAstroimagery.com. [Online]. Available : https://astroimagery.com/astrophotography/types-of-astrophotography/. [2566 พฤศจิกายน 21].
  • Justin Parker. (2566). 11 Types of Astrophotography You Should KnowS้hutterhow[Online]. Available : https://www.shutterhow.com/types-of-astrophotography/. [2566 พฤศจิกายน 21].
  • Wikipedia. (2566). Afocal photography[Online]. Available : https://en.wikipedia.org/wiki/Afocal_photography. [2566 พฤศจิกายน 21].
  • Hermanus Astronomy. (2566). Astrophotography – THE DSLR AND THE TELESCOPE[Online]. Available : https://www.hermanusastronomy.co.za/astrophotography-the-dslr-and-the-telescope/. [2566 พฤศจิกายน 21].