มีอะไรให้ชมบ้าง : ไกด์นำชมดาว 9 ธันวาคม 2566 @ สวนผึ้ง

ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี ได้จัดกิจกรรม "ชมทะเลดาวและทางช้างเผือก ครั้งที่ 2" ในวันที่ 9 ธ.ค.2566 ณ The Bee Camping อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในคืนนั้นมีอะไรให้ชมกันบ้าง ลองอ่านดูกันนะครับ


กำหนดเวลาทางดาราศาสตร์ที่สำคัญ
  • ดวงอาทิตย์ตก เวลา 17:51 น.
  • แสงสนธยาช่วงเย็น เวลา 17:51-19:05 น.
  • คืนนี้ ไม่มีแสงดวงจันทร์รบกวนในการดูดาว ดวงจันทร์จะไปขึ้นในรุ่งเช้าของวันที่ 10 ธ.ค.2566 (แรม 13 ค่ำ ความสว่าง 9%) เวลา 03:48 น.
  • แสงสนธยาช่วงเช้า เวลา 05:05-06:18 น.
  • ดวงอาทิตย์ขึ้น เวลา 06:18 น.
ดาวฤกษ์สว่าง 25 ดวงบนท้องฟ้า
กลุ่มดาวยอดนิยม
ด้านทิศตะวันออก
  • ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) สว่างโดดเด่นอยู่กลางฟ้า
  • กลุ่มดาวนายพราน (Orion) จะเห็นดาวสามดวงเรียงกัน เรียกว่า เข็มขัดนายพราน (Orion's Belt) ในกลุ่มดาวนี้ จะมีดาวสว่างคือ ดาวไรเจล (Rigel) และดาวเบเทลจุส (Betelgeuse) และมี DSO ได้แก่ เนบิวลานายพราน (The Great Orion Nebula), เนบิวลาหัวม้า (Horsehead) และเนบิวลาเปลวเพลิง (Flame Nebula)
  • กลุ่มดาววัว (Taurus) หรือกลุ่มดาวราศีพฤษภ จะเห็นดาวเรียงกันเป็นรูปตัววี มีดาวสว่างคือ ดาวอัลเดบารัน (ดาวตาวัว) ส่วน DSO ก็คือ กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades star cluster), กระจุกดาวสามเหลี่ยมหน้าวัว (Hyades star cluster)
  • กลุ่มดาวสารถี (Auriga) ดาวสว่างคือ ดาวคาเพลลา (Capella)  
  • กลุ่มดาวหมาใหญ่ (Canis Major) ดาวสว่างคือ ดาวซิริอุส (Sirius) หรือดาวโจร เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้า รองจากดวงอาทิตย์
  • กลุ่มดาวหมาเล็ก (Canis Minor) ดาวสว่างคือ ดาวโพรซิออน (Procyon)
  • กลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) มีดาวสว่างฝาแฝดคือ ดาวพอลลักซ์ (Pollux) และดาวคาสเตอร์ (Castor)
  • สามเหลี่ยมฤดูหนาว คือ เส้นสมมติระหว่าง ดาวซิริอุส ↔ ดาวเบเทลจุส  ↔ ดาวโพรซิออน
  • หกเหลี่ยมฤดูหนาว คือ เส้นสมมติระหว่าง ดาวซิริอุส ↔ ดาวโพรซิออน ↔ ดาวพอลลักซ์ ↔ ดาวคาเพลลา ↔ ดาวอัลเดบารัน ↔ ดาวไรเจล

ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
  • กลุ่มดาวแอนโดรเมดา (Andromeda) ดาวสว่างคือ ดาวไมรา (Mirach) มี DSO คือ กาแล็กซีแอนโดรเมดา และตรงปลายเท้าเจ้าหญิงคือ กาแล็คซี NGC 891 
  • กลุ่มดาวเพอร์ซิอัส (Perseus) ดาวสว่างคือ ดาวอัลฟาเพอร์เซย์ (Mirfak) ดาวที่น่าสังเกตคือ ดาวปีศาจ (Algol) ดาวปีศาจนี้ เปรียบเป็นดวงตาของเมดูซ่า
  • กลุ่มดาวสามเหลี่ยม (Triangulum) มี DSO คือ กาแล็กซีสามเหลี่ยม (Triangulum galaxy)
  • กลุ่มดาวแกะ (Aries) หรือ กลุ่มดาวราศีเมษ
ด้านทิศเหนือ
  • กลุ่มดาวแคสซิโอเปีย (Cassiopeia) หรือกลุ่มดาวค้างคาว คล้ายอักษรภาษาอังกฤษ ตัว M หรือ W จะมี DSO ได้แก่ เนบิวลาหัวใจ (Heart Nebula) บริเวณปลายปีกค้างคาว
  • ดาวเหนือ (Polaris) เป็นดาวที่ไม่ขึ้นไม่ตก นิ่งอยู่กับที่ ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ตำแหน่งดาวเหนือจะสูงเหนือขอบฟ้าประมาณ 13°
  • กลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) หรือดาวจระเข้ หรือดาวกระบวย จะหมุนรอบดาวเหนือ จะขึ้นเต็มตัวเวลา 02:20 น.ของวันรุ่งขึ้น
  • กลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor) หมุนรอบดาวเหนือ ปลายหางหมีคือดาวเหนือ  จะขึ้นเต็มตัวเวลา 02:30 น. ของวันรุ่งขึ้น
ด้านระหว่างทิศเหนือถึงทิศตะวันตก
  • กลุ่มดาวนกอินทรี (Aquila) ดาวสว่างคือ ดาวอัลแทร์ (Altair) หรือดาวตากนกอินทรี จะมี DSO เนบิวลาดัมบ์เบลล์ (Dumbbell Nebula) อยู่ระหว่างหัวนกอินทรี กับหัวหงส์
  • กลุ่มดาวพิณ (Lyra) ดาวสว่างคือ ดาวเวกา (Vega) และจะมี DSO คือ เนบิวลาวงแหวน (Ring Nebula) ในกลุ่มดาวนี้ 
  • กลุ่มดาวหงส์ (Cygnus) ดาวสว่างคือ ดาวเดเนบ (Deneb) หรือ ดาวหางหงส์  ตัวหงส์ คือ แนวทางช้างเผือก จะพาดผ่านตรงกลางระหว่างดาวเวกา และดาวอัลแทร์
  • สามเหลี่ยมฤดูร้อน คือ เส้นสมมติระหว่าง ดาวเวกา ↔ ดาวเดเนบ ↔ ดาวอัลแทร์ 
ด้านทิศใต้
  • กลุ่มดาวแม่น้ำ (Eridanus) จะมีดาวสว่างคือ ดาวอะเคอร์น่า (Achernar) อยู่ในตำแหน่งปากแม่น้ำ แม่น้ำจะคดเคี้ยวไปยังต้นแม่น้ำ ซึ่งอยู่บริเวณดาวไรเจลในกลุ่มดาวนายพราน
  • กลุ่มดาวท้ายเรือ (Puppis) จะมีดาวสว่างคือ ดาวคาโนปัส (Canopus)
  • ดาวเสาร์ (Saturn) จะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ขอให้ท่านผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 9 ธ.ค.2566 อ่านให้ผ่านตาไว้ก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานในการดูดาว อาจจะงงกับทิศทาง กลุ่มดาว ชื่อดาว หรือ DSO  ต่าง ๆ ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยววันจริงจะเข้าใจง่ายขึ้น และหากท่านใดติดตั้งแอปพลิเคชันดูดาวแล้ว ก็ลองจำลองภาพท้องฟ้าคืนวันนั้น ดูได้เลย  

อ่านเพิ่มเติม

พวกเธออยู่ที่ไหน?

ยาน Voyager1 และ 2 ยานอวกาศไร้คนขับของ NASA ออกเดินทางจากโลกของเรา ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2520 เธอบินจากเราไป 46 ปีแล้ว ตอนนี้ เธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่  หากมีพวกเธออยู่ที่ไหนกัน


เวลาเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับความกว้างใหญ่ไพศาลของจักรวาล ความลึกลับ ความมหัศจรรย์ ความไร้ขอบเขต การดำรงอยู่ของดวงดาวนับแสนนับล้านดวง อีกทั้งกาแล็กซี เนบิวลา ที่นับไม่ก้วน 

เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์ยานอวกาศไร้คนขับขึ้นหลายลำ แล้วส่งพวกเขาขึ้นไปสำรวจดาวเคราะห์และวัตถุต่าง ๆ ในระบบสุริยะของเรา บ้างลำก็สูญหายไปแล้ว บางลำก็กำลังเดินทางสำรวจอยู่ และมี 2 ลำ ที่กำลังเดินทางไปไกลมากถึงสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็คือ ยานฝาแฝด  Voyager1 และ 2 ที่ไปได้ไกลกว่าเพื่อน ๆ และพวกเธอยังส่งสัญญาณวิทยุกลับมาให้นักวิทยาศาสตร์บนโลกอย่างต่อเนื่อง

พ้นขอบระบบสุริยะ
ผมอยากรู้เรื่องราวของ Voyager ก็เลยเข้าไปอ่านเว็บไซต์ของ The Jet Propulsion Laboratory ซึ่งเป็นผู้ควบคุมโครงการ Voyager จึงทราบว่าตอนนี้ ยานฝาแฝด  Voyager1 และ 2 เดินทางพ้นขอบระบบสุริยะของเราที่เกิดจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) แล้วและกำลังเดินทางเข้าสู่ พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) ซึ่งนับว่าไกลที่สุด เท่าที่มนุษย์เคยทำได้

ยาน Voyager1 ข้ามขอบเขตของเฮลิโอสเฟียร์และเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาวในปี พ.ศ. 2555 ตามมาด้วยยาน Voyager2 ซึ๋งเดินทางช้าลงและไปในทิศทางที่ต่างออกไป ข้ามขอบเขตของเฮลิโอสเฟียร์และเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว ในปี พ.ศ. 2561 

ยาน Voyager 1 และ 2 เดินทางพ้นขอบเขตของเฮลิโอสเฟียร์และเข้าสู่พื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว

การสำรวจจักรวาลเพิ่งเริ่มต้น
อ่านข่าวนาย Edward Stone เกษียณ หลังจากทำงานในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ของโครงการ NASA Voyager มา 50 ปี ทำให้เข้าใจว่า การส่งยานอวกาศเพื่อเดินทางไปสำรวจจักรวาล ในแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลายาวนานมากกว่าครึ่งศตวรรษของมนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียว ทำตั้งแต่หนุ่มจนแก่ แต่ยานอวกาศที่สร้างขึ้น ก็พึ่งเดินทางไปได้แค่พ้นขอบระบบสุริยะของเราเท่านั้นเอง  แต่ก็ถือว่า การเดินทางของ Voyager1 และ 2 เป็นก้าวแรกของการสำรวจจักรวาลที่แท้จริงของมวลมนุษย์ชาติ  มันพึ่งเริ่มต้น 

เอ็ด สโตน คนที่ 2 จากซ้าย และสมาชิกคนอื่นๆ ของทีม Voyager
โพสท่ากับแบบจำลองยานอวกาศ Voyager ในปี พ.ศ.2520 ซึ่งเป็นปีที่ปล่อยยาน

ถ้าเทียบวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยปี พ.ศ.2520 กับสมัยนี้แทบจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ในปีนั้น ผมยังต้องเขียนจดหมายแล้วส่งทางไปรษณีย์อยู่เลย แต่นักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้นสุดยอดมาก ๆ ที่สามารถประดิษฐ์ยานอวกาศไร้คนขับส่งขึ้นไปสำรวจจักรวาลได้ และยังคงเดินทางสำรวจอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

พวกเธออยู่ที่ไหน
ในแอปพลิเคชั่น Eye on The Solar system ของ NASA  ใน "Voyager Grand Tour 1977-Today" รายงานเป็น real time ว่าขณะนี้ ฝาแฝดทั้ง 2 อยู่ตรงไหนแล้วในจักรวาล (ตามภาพด้านล่าง)

ตำแหน่งของ Voyager1 และ 2
Pioneer10 และ 11 สูญหายไปแล้ว
เมื่อ 24 พ.ย.2566 เวลา 14:18:08 น.
ที่มาของภาพ  (NASA.2566)

ตำแหน่ง Voyager1
ยาน Voyager1 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03:38 น. อยู่ตำแหน่งตามภาพด้านล่างนี้ ลองจินตนาการดูนะครับ ตอนนี้อยู่ในพื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) พ้นขอบระบบสุริยะของเราที่เกิดจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) ไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2555 (11 ปีมาแล้ว)
  • ระยะห่างจากโลก 15,113,963,XXX ไมล์ (162.593XXXXX AU)
  • ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ 15,041,924,XXX ไมล์ (161.818XXXXX AU)
  • คามเร็วเดินทาง 38,026.77 ไมล์/ชม.
  • ระยะห่างความเร็วแสง 22 ชม.32 นาที 14 วินาที
ตำแหน่ง Voyager 1  เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2566
ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2566)

ตำแหน่ง Voyager 2
ยาน Voyager 2 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03:37 น. อยู่ตำแหน่งตามภาพด้านลางนี้ ลองจินตนาการดูนะครับ ตอนนี้อยู่ในพื้นที่ว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) พ้นขอบระบบสุริยะของเราที่เกิดจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere) ไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2561 (5 ปีมาแล้ว)
  • ระยะห่างจากโลก 12,598,045,XXX ไมล์  (135.527XXXXX AU)
  • ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ 12,551,936,XXX ไมล์ (135.031XXXXX AU)
  • ความเร็วเดินทาง 34,390.98 ไมล์/ชม.
  • ระยะห่างความเร็วแสง 18 ชม.47 นาที 08 วินาที

ตำแหน่ง Voyager 2  เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2566
ที่มาของภาพ (Jet Propulsion Laboratory.2566)

เธอทำอะไรมาบ้าง 
ยาน Voyager1 และ 2 ได้สำรวจดาวเคราะห์ยักษ์ทั้งหมดของระบบสุริยะชั้นนอกของเรา ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ดวงจันทร์ 48 ดวง และระบบวงแหวนและสนามแม่เหล็กอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวเคราะห์เหล่านั้น
  • ยานเข้าใกล้ดาวพฤหัสบดีที่สุด เมื่อ 5 มีนาคม 2522 (Voyager1) และ 9 กรกฎาคม 2522 (Voyager2)
  • ยานเข้าใกล้ดาวเสาร์ที่สุุด เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2523 (Voyager1) และ 25 สิงหาคม พ.ศ.2524 (Voyager2)
  • ยานเข้าใกล้ดาวยูเรนัสที่สุด วันที่ 24 มกราคม 2529 (Voyager2)
  • ยานเข้าใกล้ดาวเนปจูนที่สุด วันที่ 25 สิงหาคม 2532 (Voyager2)
ภาพถ่ายอันโด่งดังของ Voyager1
Pale Blue Dot เป็นภาพถ่ายโลกของเราที่ถ่ายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2533 โดยยาน Voyager1 ที่ระยะห่าง 3.7 พันล้านไมล์ (6 พันล้านกิโลเมตร) จากดวงอาทิตย์ ภาพดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้ คาร์ล เซแกน นักดาราศาสตร์ในโครงการสำคัญของ NASA ใช้ชื่อหนังสือของเขาว่า "Pale Blue Dot: A Vision of the Human Future in Space" โดยเขาเขียนบรรยายว่า "Look again at that dot. That's here. That's home. That's us." (มองดูจุดนั้นอีกครั้ง นั่นคือที่นี่ นั่นคือบ้าน นั่นคือพวกเรา)

Pale Blue Dot  เป็นภาพถ่ายโลก
ถ่ายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2533 โดยยาน Voyager1 
ที่มาของภาพ (NASA/JPL-Caltech. 2566).

แล้วเธอจะไปไหน
  • ยาน Voyager1 เดินทางมุ่งหน้าไปยัง กลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus) และกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor)
  • ยาน Voyager2 เดินทางมุ่งหน้าไปยัง กลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius)  กลุ่มดาวนกยูง (Pavo) และดาวฤกษ์ ชื่อ รอสส์ 248 ซึ่งเป็นดาวดวงเล็กใน กลุ่มดาวแอนโดรเมดา (Andromeda)
เธอจะหมดลมหายใจเมื่อไหร่
เดิมวิศวกรของ NASA ออกแบบ Voyager ให้ทำงานได้ 4 ปี แต่ถึงปัจจุบันเธอก็ทำงานมาถึง 46 ปีแล้ว และเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่บินไปไกลจากโลกมากที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยทำได้ ก็ภาวนาให้ทีมวิศวกรของ NASA จะสามารถต่ออายุเธอได้ และขอสวดภาวนาให้เธอเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางให้จงได้ ถึงแม้เวลานั้น  พวกเราจะไม่ได้อยู่ชื่นชมความสำเร็จของเธอแล้วก็ได้ 

ถ้าเป็นคน เธอคงอ่อนล้ามาก กับการเดินทางที่โดดเดี่ยวมายาวนานถึง 46 ปี ต้องผจญกับอุปสรรคต่าง ๆ แต่โดยลำพังในจักรวาลอันมืดมิด เมื่อใดที่เธอหายไป และไม่ติดต่อกลับมา ก็ขอให้ทราบว่า พวกเราขอขอบคุณ และขอสดุดีวีรกรรมของเธอที่ทำให้แก่โลกของเรา ไว้ชั่วนิรันดร์

*********************************
รวบรวม และเรียบเรียง โดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
23 พ.ย.2566

ที่มาข้อมูล
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Voyager. [Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Calla Cofield. (2565). Edward Stone Retires After 50 Years as NASA Voyager's Project ScientistJet Propulsion Laboratory. [Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/news/details.php?article_id=127. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Mission Status[Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/mission/status/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Fast Facts[Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/frequently-asked-questions/fast-facts/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • Jet Propulsion Laboratory. (2566). Frequently Asked Questions[Online]. Available : https://voyager.jpl.nasa.gov/frequently-asked-questions/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • NASA/JPL-Caltech. (2566). Voyager 1’s Pale Blue Dots[Online]. Available : https://science.nasa.gov/resource/voyager-1s-pale-blue-dot/. [2566 พฤศจิกายน 23].
  • NASA. (2566). Eye on The Solar system[Online]. Available : https://eyes.nasa.gov/apps/solar-system/#/home. [2566 พฤศจิกายน 24].

นักถ่ายดาวแบบมินิมอล ใคร ๆ ก็เป็นได้

มินิมอล (Minimal) มีความหมายว่า น้อยที่สุด หรือขั้นต่ำสุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าเราสามารถนำหลักการนี้ มาใช้กับการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ซึ่งมีต้นทุนสูง ก็จะทำให้หลายคนสามารถลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่าย รู้จักใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ต้องพะวงกับราคาค่าอุปกรณ์ที่แสนแพง ซึ่งจะทำให้มีความสุขและเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ได้อย่างเต็มที่   


วัตถุบนท้องฟ้าในการถ่ายภาพ
วัตถุบนท้องฟ้าทางดาราศาสตร์ที่ปรากฏให้เราเห็นมีหลายชนิด การถ่ายภาพแต่ละชนิดก็มีวิธีการ รูปแบบ ความสนุกสนาน และความท้าทายที่แตกต่างกันไป  การถ่ายภาพวัตถุทางดาราศาสตร์ช่วยทำให้เราเพลิดเพลิน ตื่นเต้น และรู้สึกภาคภูมิใจที่เราสามารถถ่ายภาพพวกเขาได้ แถมยังได้เห็นความงดงาม ความลึกลับ และความมหัศจรรย์ของจักรวาลอีกด้วย  วัตถุบนท้องฟ้าที่นิยมถ่ายภาพกัน อาจจัดกลุ่มได้ ดังนี้
  • การถ่ายภาพวัตถุท้องฟ้าในห้วงอวกาศลึก (Deep Sky Objects) เป็นการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่นอกระบบสุริยะของเรา เช่น กาแล็กซี เนบิวลา และกระจุกดาว วัตถุเหล่านี้ อาจอยู่ห่างจากเราหลายร้อยล้านปีแสง จึงเป็นเรื่องยากที่จะถ่ายภาพพวกเขา การถ่ายภาพชนิดนี้ต้องมีอุปกรณ์พิเศษหลายอย่าง
  • การถ่ายภาพดาวเคราะห์ (Planetary) เป็นการถ่ายภาพดาวเคราะห์ต่าง ๆ เช่น ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวอังคาร และดาวศุกร์ ที่อยู่ในระบบสุริยะของเรา
  • การถ่ายภาพดาวและกลุ่มดาว (Stars and constellations)  เป็นการถ่ายภาพดาวฤกษ์ และกลุ่มดาวต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า นอกระบบสุริยะของเรา
  • การถ่ายภาพดวงอาทิตย์ (Solar) เป็นการถ่ายภาพดวงอาทิตย์และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของดวงอาทิตย์ เช่น จุดดับบนดวงอาทิตย์ ความโดดเด่น และเปลวสุริยะ เป็นต้น
  • การถ่ายภาพดวงจันทร์ (Lunar) เป็นการถ่ายภาพดวงจันทร์ ข้างขึ้น ข้างแรม รวมถึงลักษณะภูมิประเทศต่าง ๆ เช่น ปล่องภูเขาไฟ ภูเขา และหุบเขา 
  • การถ่ายภาพทางช้างเผือก (Milky Way) 
  • การถ่ายภาพดาวหางและฝนดาวตก (Comet and meteor shower) 
  • ฯลฯ
การถ่ายแบบ Prime Focus 
ที่มาของภาพ (Hermanus Astronomy.2566)

เทคนิคการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ 
เทนิคการถ่ายภาพวัตถุต่าง ๆ ทางดาราศาสตร์ จะมีวิธีการ เทคนิค  เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดวัตถุบนท้องฟ้านั้น ๆ และลักษณะของภาพที่ต้องการ เทคนิคการถ่ายที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน มีหลายเทคนิค อาทิ
  • การถ่ายทิวทัศน์กลางคืนมุมกว้าง (Wide-Angle Night-Scapes) คือ การใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของทรงกลมท้องฟ้า
  • การถ่ายแบบ Prime Focus  คือ การติดกล้องเข้ากับกล้องโทรทรรศน์โดยตรง 
  • การถ่ายแบบ Star-Tracker Night-Scapes คือ การถ่ายทิวทัศน์กลางคืนโดยใช้อุปกรณ์ตามดาว
  • การถ่ายแบบ Piggyback  คือ การติดตั้งกล้องถ่ายบนหลังกล้องโทรทรรศน์
  • การถ่ายแบบเจาะลึกทางช้างเผือก (Star-Tracker Milky Way Close-Ups)
  • การถ่ายแบบ Afocal คือ ใช้กล้องถ่าย ถ่ายไปที่เลนส์ใกล้ตาของกล้องโทรทรรศน์
  • การถ่ายทิวทัศน์กลางคืนแบบพานอรามา (Night-Scape Panoramas)
  • การถ่าย Landscape คือ การถ่ายภาพผสมระหว่าง Foregroud และ Sky ให้กลมกลืนและสวยงาม 
  • การถ่ายแบบ Timelapse คือการถ่ายภาพหลายภาพในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วนำมารวมกันเพื่อสร้างเป็นวิดีโอหรือภาพนิ่ง 
  • ฯลฯ
การถ่ายแบบ Afocal
ที่มาของภาพ (Wikipedia. 2566)

การถ่ายภาพแบบ Piggyback 

การถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล
เทคนิคการถ่ายภาพดาราศาสตร์แต่ละรูปแบบ จะมีการใช้กล้อง อุปกรณ์ และเครื่องมือ ที่แตกต่างกัน ต้นทุนค่าใช้จ่ายในบางเทคนิคจะมีราคาสูงมาก โดยเฉพาะตัวกล้องและอุปกรณ์ต่อพ่วง หากนักถ่ายภาพมีทักษะประสบการณ์และรู้จักการประยุกต์ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็จะช่วยลดต้นทุนในการถ่ายภาพให้ต่ำลง หรือ น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การถ่ายภาพวัตถุบนท้องฟ้าที่ง่ายและประหยัดที่สุด คือ การถ่ายภาพทิวทัศน์ดาวฤกษ์ กลุ่มดาว และดาวเคราะห์ ซึ่งผมขอเรียกว่า "การถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล" เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น (Beginner) หรือมือใหม่ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า "ดูดาวได้ ถ่ายภาพเป็น" โดยมีหลักในการถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล 6 ประการ ได้แก่
  1. ใข้โทรศัพท์มือถือของคุณเอง เพราะทุกคนมีอยู่แล้ว ใช้กล้องโทรศัพท์มือถือของตนเองในการถ่ายดาว พยายามหัดใช้ทุกฟังก์ชั่นให้เป็นและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะโหมดการตั้งค่าถ่ายภาพเอง (Pro/Manual)
  2. ใช้ขาตั้งกล้อง  ขาตั้งกล้องมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการสั่นไหวของกล้อง ซื้อขาตั้งกล้องเป็นของตัวเองสักอัน (เดี๋ยวนี้มีขายทั่วไปตามร้านโทรศัพท์ ทางออนไลน์ก็มี ราคาไม่แพง) ไปไหนให้นำติดตัว ติดรถไปด้วย พร้อมใช้งานได้เสมอ
  3. ใช้แอปพลิเคชันดูดาว ยอมเสียเงินติดตั้งแอปพลิเคชันดูดาวที่ดีดีสักแอปฯ ลงในโทรศัพท์มือถือ เช่น Star Walk 2, Sky Tonight, Sky Safari 7 ฯลฯ แล้วใช้ให้เป็น เมื่อมีเวลาว่างลองเปิดดู "ท้องฟ้าจำลอง" ในแอปฯ  หัดดูชื่อดาว หัดดูกลุ่มดาว หัดดูว่าในแต่ละคืนจะมีดาวหรือวัตถุใดที่จะขึ้นให้เราเห็นบ้าง  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ ออกมาดูดาวในท้องฟ้าจริง ๆ ในยามค่ำคืน
  4. ใช้แอปพลิเคชันแต่งภาพ ยอมเสียเงินติดตั้งแอปพลิเคชันแต่งภาพดีดีสักแอปฯ  ลงในโทรศัพท์มือถือ เช่น Photoshop Express Photo Editor (Ps), Lightroom Photo & Video Editor (Lr) ฯลฯ เอาไว้แต่งภาพดาวที่เราถ่ายมา หรือใข้แต่งภาพถ่ายอื่น ๆ ของเราก็ได้ ฝึกใช้ให้คล่อง ลองผิดลองดู เดี๋ยวก็จะเข้าใจเอง 
  5. หมั่นหาความรู้ หมั่นศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ ทางเว็บไซต์หรือโซเซียลมีเดียทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ดาษดื่นในโลกออนไลน์ หัดดูภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ที่คนอื่น ๆ ถ่ายแล้วโพสต์ไว้ว่าเขามีเทคนิคการตั้งค่าการถ่ายภาพอย่างไร เขาวาง Landscape อย่างไร แล้วจำมาประยุกต์ในการถ่ายของเราเอง 
  6. หมั่นฝึกทักษะและประสบการณ์ ทุกครั้งเมื่อมีเวลาหลังดวงอาทิตย์ตกดินไปแล้ว จงเดินออกไปนอกบ้าน และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อเห็นดาวก็เริ่มตั้งกล้องถ่ายภาพได้เลย ฝึกถ่ายบ่อย ๆ สวยบ้างไม่สวยบ้าง ไม่เป็นไร เพราะมันจะทำให้เราได้ทักษะ พอเรามีทักษะมากขึ้นก็จะกลายเป็นประสบการณ์ที่สั่งสมอยู่ในตัวของเราเอง  
ท้องฟ้าเมืองราชบุรี Class6 ยังพอมองเห็นดาวต่าง ๆ ได้
นักถ่ายดาวแบบมินิมอล
การถ่ายดาวด้วยมือถือ ไม่ยุ่งยาก ใคร ๆ ก็ถ่ายได้ แถมถ่ายได้ทุกคืน แม้แต่ในเมืองที่มีแสงสว่างเรืองขึ้นท้องฟ้ามาก ๆ ก็ยังพอมองเห็นดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ที่สว่าง ๆ ปรากฏให้เห็นอยู่ อย่างเช่นท้องฟ้าเมืองราชบุรี บ้านผมเอง (ค่าความมืดของท้องฟ้า Class 6) ก็ยังพอมองเห็นกลุ่มดาวได้ (ภาพด้านบน) ยกเว้น เมื่อเวลามีเมฆและมีฝนตกเท่านั้น ที่จะเป็นอุปสรรคในการถ่ายดาว 

ค่าความสว่างของท้องฟ้า

หมั่นออกมาที่ระเบียงหรือสนามหน้าบ้าน ตั้งกล้องและลงมือถ่าย นำภาพที่ถ่ายได้มาศึกษาเรียนรู้ และลองแต่งภาพดู แค่นี้ ก็ถือว่า เป็น "นักถ่ายดาวแบบมินิมอล" แล้ว ไม่ใช่ "นักถ่ายภาพดาวมือใหม่" อีกต่อไป พอถึงวันหยุดพักผ่อน ค่อยไปหาสถานที่ที่ท้องฟ้ามืด ๆ ตั้งกล้องถ่ายดาวกันต่อไป

การถ่ายภาพดาวแบบมินิมอล

นักถ่ายดาวแบบมินิมอล แทบไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ราคาแพงอะไรเลย เพราะทุกอย่างมีใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องใช้ให้เป็น ตั้งแต่การตั้งค่าการถ่าย การแต่งภาพ จนถึงการโพสต์ภาพดาวสวย ๆ ลงในโซเซียล คุณสามารถทำได้ในโทรศัพท์มือถือของคุณเพียงเครื่องเดียว กับขาตั้งกล้องอีกหนึ่งอัน

*********************************
เขียนโดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
22 พ.ย.2566


ที่มาข้อมูล
  • Karl Perera MA. (2566). Types of astrophotography that will amaze youAstroimagery.com. [Online]. Available : https://astroimagery.com/astrophotography/types-of-astrophotography/. [2566 พฤศจิกายน 21].
  • Justin Parker. (2566). 11 Types of Astrophotography You Should KnowS้hutterhow[Online]. Available : https://www.shutterhow.com/types-of-astrophotography/. [2566 พฤศจิกายน 21].
  • Wikipedia. (2566). Afocal photography[Online]. Available : https://en.wikipedia.org/wiki/Afocal_photography. [2566 พฤศจิกายน 21].
  • Hermanus Astronomy. (2566). Astrophotography – THE DSLR AND THE TELESCOPE[Online]. Available : https://www.hermanusastronomy.co.za/astrophotography-the-dslr-and-the-telescope/. [2566 พฤศจิกายน 21].

ดาวตกลีโอนิดส์ เคยตกถึง 100,000 ดวง/ชั่วโมง

ฝนดาวตกลีโอนิดส์ หรือ ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต จะเกิดในช่วงระหว่างวันที่ 6 - 30 พ.ย. ของทุกปี ในปี พ.ศ. 2566 นี้ จะมีอัตราการตกสูงสุดหลังเที่ยงคืนวันที่ 17 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 01.00 น. จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 18 พ.ย.2566 อัตราการตกสูงสุดประมาณ 15 ดวง/ชั่วโมง ศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวสิงโต 

ที่มาของภาพ Vito Technology, Inc. (2566)

ราชาแห่งฝนดาวตก
แหล่งกำเนิดของฝนดาวตกลีโอนิดส์ (Leonids meteor shower) เกิดจากสายธารเศษฝุ่นของดาวหาง 55พี เทมเพล-ทัตเทิล (55P/Tempel-Tuttle) ที่มีคาบวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ 33 ปี ดาวตกลีโอนิดส์ มีความเร็วมากกว่ากระสุนปืนไรเฟิล 200 เท่า ส่องแสงวูบวาบบินลงมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็ว 71 กิโลเมตรต่อวินาที และทิ้งเส้นทางยาวสีน้ำเงินเขียวไว้เบื้องหลัง เหมือนกับรถไฟไอน้ำวิ่งผ่านท้องฟ้า เป็นดาวตกที่มีความสว่างมากที่สุด จึงได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งฝนดาวตก”

พายุดาวตกลูกแรก
เมื่อ 190 ปีที่แล้ว เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2376 ดาวตกลีโอนิดส์ มีอัตราการตกถึง 100,000 ดวงต่อชั่วโมง จึงถือว่าเป็น "พายุดาวตกลูกแรก" พายุดาวตกลีโอนิดส์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อวงการดาราศาสตร์ในการศึกษาดาวตก

การที่จะเรียกว่า พายุดาวตก (The meteor storm) ได้นั้น ต้องมีดาวตกมากกว่า 1,000 ดวงต่อชั่วโมง หากต่ำกว่านี้ ก็จะเรียกว่า ฝนดาวตก (The meteor shower)

ชื่อภาพ The night the stars fell 

ในคืนที่ดาวตก
ภาพด้านบน มีชื่อภาพว่า "The night the stars fell"  (ในคืนที่ดาวตก) เป็นผลงานภาพแกะสลักไม้อันโด่งดัง แสดงพายุดาวตกลีโอนิดส์ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2376 โดย อดอล์ฟ โวลล์ ตีพิมพ์ในหนังสือแอ๊ดเวนตีส เรื่อง “Bible Readings for the Home Circle” โดยจินตนาการมาจากภาพวาดของศิลปินชาวสวิส ชื่อ คาร์ล จัสลิน และจากคำบอกเล่าของ โจเซฟ ฮาร์วีย์ แวกโกเนอร์ รัฐมนตรี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์พายุดาวตกในครั้งนั้นระหว่างเดินทางจากรัฐฟลอริดาไปยังรัฐนิวออร์ลีนส์ ส่วนภาพล่าง เป็นภาพวาดพายุดาวตกลีโอนิดส์ เหนือน้ำตกไนแอการา ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา

ภาพวาดพายุดาวตกลีโอนิดส์  ใน พ.ศ.2376
เหนือน้ำตกไนแอการา

เหตุการณ์สำคัญของฝนดาวตกลีโอนิดส์
  • เดือน พ.ย.2376 เกิดพายุดาวตกลีโอนิดส์ลูกแรก โดยมีอัตราการตกถึง 100,000 ดวงต่อชั่วโมง (ตอนนั้น ยังไม่พบดาวหางที่เป็นแหล่งกำเนิด)
  • 19 ธ.ค.2408 วิลเลียม เทมเพล แห่งหอดูดาวมาร์แซย์ ในประเทศฝรั่งเศส  ค้นพบดาวหางในท้องฟ้าใต้ดาวเหนือ ใกล้กับดาวเบตา อูร์แซ ไมโนริส
  • 5 ม.ค.2409 ฮอเรซ ทัตเทิล แห่งหอดูดาว วิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งสหรัฐอเมริกา ก็ค้นพบดาวหางดวงนี้เช่นกัน 
  • ดาวหางดวงนี้ จึงตั้งชื่อว่า  เทมเพล-ทัตเทิล มีคาบวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ 33.17 ปี
  • นักดาราศาสตร์คำนวณว่า พายุดาวตกลีโอนิดส์ ลูกถัดไป น่าจะเกิดขึ้นในรอบ  33 ปีตามวงโคจรของดาวหาง แต่ปรากฏว่าในปี พ.ศ. 2409 และในปี พ.ศ.2442 ไม่มีพายุดาวตกลีโอนิดส์เกิดขึ้น  
  • ต่อมาอีก 100 ปี ในวันที่ 17 พ.ย.2509 ก็เกิดพายุดาวตกลีโอนิดส์ อีกครั้ง อัตราการตก 40-50 ดวงพุ่งผ่านท้องฟ้าทุกวินาที (2,400 ถึง 3,000 ดวงต่อนาที) เป็นเวลา 15 นาที
  • อีก 35 ปี ต่อมา ในวันที่ 18 พ.ย.2544  มีพายุดาวตกลีโอนิดส์ เกิดขึ้นอีก (แต่อัตราการตกไม่มากเท่ากับปี พ.ศ.2509)
  • หากเป็นเช่นนี้ ในปี พ.ศ.2577 ก็น่าจะเกิด "พายุดาวตกลีโอนิดส์" ขึ้นอีกครั้ง ก็เหลือเวลาจากปัจจุบันอีก 11 ปี อย่าลืม ลุ้นชมกันนะครับ
ดาวตกลีโอนิดส์ มองจากอวกาศในปี พ.ศ.2540 ภาพโดย NASA
ที่มาของภาพ (Deborah Byrd. 2566)

ฝนดาวตกลีโอนิดส์เป็นเส้นสีเขียว
ที่มาของภาพ (Deborah Byrd. 2566)

อย่าลืมหาท้องฟ้ามืด ๆ ไปชมฝนดาวตกกันนะครับ

*****************************
เขียนโดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
17 พ.ย.2566


ที่มาข้อมูล
  • Deborah Byrd. (2566). Leonid meteor shower: All you need to know in 2023EarthSky. [Online]. Available : https://earthsky.org/astronomy-essentials/everything-you-need-to-know-leonid-meteor-shower/. [2566 พฤศจิกายน 16].
  • Naoyuki Kurita. (2558). Dawn Moon, Pleiades & HyadesStellar Scenes[Online]. Available : https://stellarscenes.net/seikei_e/s118.htm. [2566 พฤศจิกายน 16].
  • Vito Technology, Inc. (2566). Leonid Meteor Shower Tonight: How to Watch?Star Walk 2[Online]. Available : https://starwalk.space/en/news/leonid-meteor-shower. [2566 พฤศจิกายน 16].

ดาวลูกไก่ เคียง ดวงจันทร์ วันลอยกระทง

เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades star cluster) หรือ 7-Sisters ที่รู้จักกันทั่วโลก จะเริ่มปรากฏโฉมให้เราเห็นตั้งแต่หัวค่ำ ยิ่งตอนนี้ก็จะอยู่เคียงข้างกับดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ราชาแห่งทวยเทพ ที่ส่องสว่างโดดเด่นอยู่กลางท้องฟ้า และในคืนวันลอยกระทงปีนี้ จะอยู่เคียงข้างกับดวงจันทร์ ด้วย

ที่มาของภาพ ปรับปรุงจาก (Bruce McClure. 2564)

หลากหลายตำนาน
เป็นเวลานับกว่าพันปีมาแล้วที่เรื่องราวของดาว 7 ดวง ในกระจุกดาวลูกไก่ อันโด่งดังไปทั่วโลก กลายเป็น กลุ่มดาวที่น่าประหลาดใจและน่าหลงใหล พวกเขากลายเป็นตำนานในเกือบทุกวัฒนธรรมบนโลก ได้รับการถ่ายทอดแบบปากต่อปาก ผ่านบทกวี ศิลปะ ดนตรี และสถาปัตยกรรม อาทิ ชาวกรีก ชาวอะบอริจิน จีน ชนพื้นเมืองอเมริกัน อียิปต์ เปอร์เซีย อินเดีย ไทย โพลีนีเซียน และอื่นๆ อีกมากมาย

ที่มาของภาพ (Lucinda Riley. 2561)

ตำนานเทพปกรณัมกรีก ซึ่งเป็นตำนานดาวที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุด กล่าวว่า กลุ่มดาวลูกไก่ ประกอบด้วย เจ็ดสาวพี่น้อง เป็นธิดาของ  แอตลาส (Atlas) เทพเจ้าไททัน ซึ่งในช่วงสงครามเคยก่อกบฏต่อ เทพซูส (Zeus) ราชาแห่งทวยเทพ จึงถูกลงโทษให้แบกสวรรค์ไว้บนบ่าตลอดไป และ พลีโอเน (Pleione) ผู้พิทักษ์หญิง นางไม้แห่งท้องทะเลในตำนานของกะลาสีเรือ ได้แก่
  1. อัลซีโยเน่ (Alcyone) 
  2. เซเลโน (Celaeno)
  3. อิเล็กตรา (Electra)
  4. ไมอา (Maia) 
  5. เมโรเป (Merope) (ดาวลูกไก่ที่สูญหายไป)
  6. เทย์เกตา (Taygete)
  7. แอสเทอโรป (Asterope) 
เรื่องตำนานเจ็ดสาวพี่น้อง ว่าทำไมจึงกลายเป็นดาวเจ็ดดวงบนท้องฟ้านั้น พอสรุปได้ว่า ธิดาทั้งเจ็ดคนเป็นที่รักของเหล่าเทพเจ้าและมนุษย์จำนวนมาก หนึ่งในผู้ที่หลงรักพวกเธอ คือ นายพราน Orion วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่  นายพราน Orion ไล่ตามธิดาทั้งเจ็ดคน จนพวกเธอต้องหนีไปซ่อนตัวในถ้ำบนภูเขา เทพซูส ราชาแห่งทวยเทพ สงสารธิดาทั้งเจ็ดคนจึงแปลงร่างพวกเธอให้กลายเป็นนกพิราบสีขาว บินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้า และกลายเป็นกลุ่มดาว Pleiades ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มดาวนายพราน (Orion) ก็ยังไล่ตามเธออยู่

ผมก็ไม่แน่ใจว่าตำนานนี้ถูกหรือปล่าว  อ่านจากข้อมูลออนไลน์แล้ว  ยังงง ๆ ไม่รู้จะเชื่อสำนักไหนดี ลองหาอ่านเอานะครับ แต่ที่แน่ ๆ คือ แต่เดิม ชาวโบราณเห็นดาวลูกไก่ 7 ดวง แต่ปัจจุบัน หายไป 1 ดวง คือ ดาวเมโรเป ปัจจุบันเหลืออยู่ 6 ดวง 


วิธีหากระจุกดาวลููกไก่ ให้ลากเส้นตรงสมมติตามแนวเข็มขัดนายพรานในกลุ่มดาวนายพราน (Orion) ผ่านปลายคันธนู ก็จะไปเจอดาวตาวัว (Aldebarun) ซึ่งเป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาววัว (Taurus) ราศีพฤษภ แล้วลากเส้นสมมติต่อไปก็จะพบ กระจุกดาวลูกไก่ (ดูภาพด้านบน)

กระจุกดาวลูกไก่อยู่ในกลุ่มดาววัว อยู่ห่างจากโลกของเราประมาณ 444 ปีแสง เป็นหนึ่งในกระจุกดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด และสว่างพอที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (mag 1.2) หากท้องฟ้าที่มืดมิด เราจะสามารถมองเห็นดาวอย่างน้อย 6 ดวง นักดูดาวที่มีตาเหยี่ยว อาจสามารถเห็นดาวได้มากถึง 14-20 ดวง กล้องส่องทางไกลหรือกล้องโทรทรรศน์จะช่วยให้มองเห็นดาวที่จางกว่าได้

กระจุกดาวลูกไก่ เคียง ดาวศุกร์
ที่มาของภาพ (Bruce McClure. 2564)

กลุ่มดาวลูกไก่และดาวตาวัว 
ดาว Aldebaran (ตาวัว) มาจากคำภาษาอาหรับที่แปลว่า ผู้ตาม ซึ่งเชื่อกันว่า ดาวตาวัวนี้ จะวิ่งไล่ตามดาวลูกไก่ไปทั่วสวรรค์ตลอดนิรันดร์กาล โดยปกติ ตอนเย็นกระจุกดาวลูกไก่จะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกก่อน แล้วดาวตาวัวก็จะตามขึ้นมา โคจรตามกันไปจนกระทั่งรุ่งเช้า ทางทิศตะวันตก กระจุกดาวลูกไก่จะตกก่อน แล้วดาวตาวัวก็จะตกตามไป 

ดาวลูกไก่ เคียง ดวงจันทร์ วันลอยกระทง
ในคืนวันที่ 27 พ.ย.2566 ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ตามประเพณีไทย ดวงจันทร์ขึ้น 15 ค่ำ ดาวลูกไก่ จะอยู่ในตำแหน่งใกล้กับดวงจันทร์ เริ่มสังเกตได้ทางทิศตะวันออก ตั้งแต่ 18:00 น. เป็นต้นไปจนถึงรุ่งเช้า ภาพที่เห็นจะประมาณภาพด้านล่างนี้ 

ที่มาของภาพ  Naoyuki Kurita. (2558)

ท่านใดยังไม่รู้จักดาวลูกไก่ คืนวันลอยกระทง ลองชมกันดูนะครับ

*****************************
เขียนโดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
16 พ.ย.2566



ที่มาข้อมูล
  • Lucinda Riley. (2561). Myths and Legends of the PleiadesLucinda Riley. [Online]. Available : https://lucindariley.co.uk/myths-and-legends/. [2566 พฤศจิกายน 16].
  • Bruce McClure. (2564). Pleiades – or 7 Sisters – known around the world. EarthSky. [Online]. Available : https://earthsky.org/favorite-star-patterns/pleiades-star-cluster-enjoys-worldwide-renown/. [2566 พฤศจิกายน 16].
  • Naoyuki Kurita. (2558). Dawn Moon, Pleiades & Hyades. Stellar Scenes[Online]. Available : https://stellarscenes.net/seikei_e/s118.htm. [2566 พฤศจิกายน 16].
  • Vito Technology, Inc. (2566). The Pleiades: One of the Best Naked-Eye Deep-Sky ObjectsStar Walk 2[Online]. Available : https://starwalk.space/en/news/m45-pleiades-star-cluster?utm_source=starwalk2-google&utm_medium=pleiades&utm_campaign=share. [2566 พฤศจิกายน 16].

เสน่ห์ฤดูหนาว ชมทะเลดาวที่สวนผึ้ง

ใครที่มาเยี่ยมเยือน อ.สวนผึ้ง ราชบุรี ในช่วงฤดูหนาว นอกจากจะได้สัมผัสกับ ไอหนาว หมอกขาว และป่าเขียว ๆ ดิบ ๆ แห่งขุนเขาตะนาวศรีแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของสวนผึ้ง ก็คือ การได้ชมทะเลดาวที่สวยงามระยิบระยับเต็มท้องฟ้า

ที่มาของภาพ : ปรับปรุงจาก (Nikki Salter. 2561).

ดาวมันอยู่บนฟ้า อยู่ที่ไหนก็น่าจะมองเห็น
หลายคนอาจสงสัยว่า ดวงดาวมันก็อยู่บนฟ้า อยู่ที่ไหนก็น่าจะมองเห็นได้ จริง ๆ แล้วถูกต้องเลยครับ แต่อาจเป็นเมื่อ 2-3,000 ปีก่อน แต่ตอนนี้ พ.ศ.2566 น่าจะไม่จริงแล้ว เพราะมนุษย์พวกเราประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าขึ้นมา ทำให้โลกเราสว่างไสวในยามค่ำคืน ที่ไหนคนอยู่มาก แสงไฟก็มากตาม การใช้แสงไฟมากเกินไปโดยไม่มีการควบคุม มันก็เลยเกิด มลภาวะทางแสง (Light pollution)  ส่งผลกระทบมากมายต่อชีวิตสรรพสัตว์บนโลก สุขภาพของเรา สิ้นเปลืองเงิน พลังงาน ทรัพยากร และที่สำคัญปิดกั้นระหว่างเรากับดวงดาว

ที่มา (แอปพลิเคชั่น light pollution map. 2566)

มลภาวะทางแสง
แผนที่แสดงมลภาวะทางแสงด้านบน พื้นที่ที่เป็นสีขาวอมม่วง เช่น กรุงเทพฯ จะมีแสงสว่างเรืองขึ้นท้องฟ้าจำนวนมาก ถัดมาก็จะเป็นพื้นที่สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว จะมีแสงจากเมืองเรืองขึ้นท้องฟ้า ลดหลั่นกันมาตามลำดับ ส่วนสีฟ้า และสีน้ำเงิน จะมีแสงเรืองจากเมืองน้อยมาก พื้นที่เหล่านี้ ท้องฟ้าจะมืด ทำให้เห็นดวงดาวได้ชัดเจน 


การวัดค่าความสว่างท้องฟ้า ที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่จะใช้มาตราบอร์เทิล (Bortle scale) ในการสื่อสาร โดยท้องฟ้าจะมีค่าตั้งแต่ Class 1-9  ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น (ดูแผนที่แสดงมลภาวะทางแสงด้านบนประกอบ)
  • กรุงเทพมหานคร ท้องฟ้าจะอยู่ใน Class 9 (Inner-City Sky) 
  • เมืองนครปฐม ท้องฟ้าจะอยู่ใน Class 8 (City Sky) 
  • เมืองราชบุรี ท้องฟ้าจะอยู่ใน Class 6 (Bright suburban sky)
  • พื้นที่ อ.สวนผึ้ง ท้องฟ้าจะอยู่ใน Class 2 (Typical truly dark site)
  • พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า สันเขาตะนาวศรี ท้องฟ้าจะอยู่ใน Class 1 (Excellent dark-sky site) 
พื้นที่ อ.สวนผึ้ง และ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
มีสภาพท้องฟ้ามืดเหมาะแก่การดูดาวมาก

ชมทะเลดาวที่สวนผึ้ง
อ.สวนผึ้ง มี บ้านพัก รีสอร์ท โฮมสเตย์  ลานกางเต็นท์ ให้บริการอยู่จำนวนมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานครบถ้วน ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา สัญญาณโทรศัพท์ และร้านสะดวกซื้อ การเดินทางถึงแหล่งที่พักสามารถเดินทางถึงด้วยรถยนต์ธรรมดาไม่ต้องออฟโรด (ยกเว้นขึ้นจุดชมวิวบนยอดเขาต่าง ๆ) 

อ.สวนผึ้ง อยู่ใม่ไกลจากกรุงเทพฯ ในฤดูหนาวก็ไม่หนาวมากจนเกินไป  อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20℃ อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 30℃ ในพื้นที่ไม่มีกิจกรรมกลางคืนสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวสังสรรค์กันเองภายในกลุ่ม 

ทางช้างเผือก หมู่บ้านห้วยกระวาน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ที่มาของภาพ (มงคลบารมี ระยอง. 2566)

การดูดาว หรือดูปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ จึงเป็นกิจกรรมทางเลือกหนึ่งในยามค่ำคืนสำหรับผู้ที่สนใจ เพราะท้องฟ้าของ อ.สวนผึ้งอยู่ในระดับ Class 2 ซึ่งเหมาะแก่การสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง 

อย่าลืมนะครับ หนาวนี้ มาชมทะเลดาวที่ อ.สวนผึ้งกัน

อ่านเพิ่มเติม
*****************************
เขียนโดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ชมรมดาราศาสตร์และมวลเมฆ จ.ราชบุรี
15 พ.ย.2566



ที่มาข้อมูล
  • Nikki Salter. (2561). Summer Sky-Watching. [Online]. Available : https://pissouribay.com/summer-sky-watching/. [2566 พฤศจิกายน 15].
  • มงคลบารมี ระยอง. (2566). หมู่บ้านห้วยกระวาน สวนผึ้ง ราชบุรี . [Online]. Available : https://www.facebook.com/photo/?fbid=9339330689473048&set=g.811264558922837. [2566 พฤศจิกายน 15].